ผู้สรรค์สร้างเฟสบุ๊คที่ไม่ชอบแสดงตัวต่อสังคม แต่สร้างมิตรภาพโลกที่ยิ่งใหญ่

เรียบเรียงคำแปล และเพิ่มเติมจาก Jose Antonio Vargas September 20, 2010 

      ผู้บริหารระดับสูงสุดของเฟสบ๊ค (Facebook) ปรารถนาที่จะสร้าง และครองความเป็นรูปแบบใหม่ของอินเตอร์เน็ต  เขาคือมาร์ค ซุ๊คเกอร์เบอร์กเจ้าของธุรกิจพันล้านเหรียญสหรัฐ โดยค้นพบเฟสบุ๊คในหอพักของมหาวิทยาลัยเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา  มีประชากรผู้ใช้เฟสบุ๊คถึง 500 ล้านคน และในจำนวนนี้เขามีเพื่อนในเฟสบุ๊คถึง 879 คนเป็นเวบไซต์ที่เป็นดัชนีรายชื่อของคนทั้งโลก  และมาจากคนธรรมดาคนหนึ่งที่สร้างให้เกิดประชาสังคมสาธารณะได้  คุณสามารถสมัครและเริ่มโพสต์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตัวของคุณเอง, รูปถ่าย, ประวัติการจ้างงาน ข้อมูลข่าวสารสามารถเห็นได้เฉพาะเพื่อนของคุณเอง บางทีเห็นจากเื่พื่อนต่อเพื่อนได้  นโยบายความเป็นส่วนตัวของเฟสบุ๊คสร้างความข้องใจกับคนจำนวนมาก และทางบริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง โดยอนุญาติให้มีข้อมูลข่าวสารที่สามารถเปิดเผยได้ในหลายวิถีทาง

       จากประวัติที่ปรากฎในเฟสบุ๊ค Zuckerberg มีน้องสาวที่ชื่อ (แรนดิี, ดอนน่า และอรีลเล) ซึ่งเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คของเขา  เพื่อนของเขากับครอบครัวชื่อ คาร์เรน และเอ็ดเวอร์ด ซุกเกอร์เบอร์ก เขาจบการศึกษาในฐานะศิษย์เก่าจาก Phillips Exeter และได้เข้าร่วมงานในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เขาเป็นคนชื่นชอบเกี่ยวกับนักแสดงตัวตลกที่ชื่อแอนดี้ แซมเบอร์ก และรวมถึงนักดนตรีที่ชื่อกรีนเดย์, เจย์แซท, เทย์เลอร์ สวิฟท์ และชากิรา   เขามีอายุเพียง 26 ปี เขาได้กล่าวถึงสิ่งที่เขาสนใจเกี่ยวกับ "ความนิยมในการทำสิ่งที่เล็กที่สุด", การปฏิวัติ, และการขจัดความต้องการ เขาชอบเกมส์ที่ชื่อว่า Ender's Game เป็นที่มาของยุคนวนิยายเชิงวิทยาศาสตร์ที่เป็นหลายเล่มจบที่บอกถึงเรื่องราว ของแอนดรู วิกกิ้น ลูกชายที่มีพรสวรรค์พิเศษที่เป็นเจ้าของเกมสฅ์คอมพิวเตอร์เกี่ยวกับสงคราม และต่อมาเขาตระหนักว่าเขาเกี่ยวข้องกับสงครามจริง   เพื่อนของซุกเกอร์เบอร์คในเฟสบุ๊คเข้าถึงที่อยู่อีเมลล์ของเขา และหมายเลขโทรศัพท์ของเขา   เขาได้จัดทำอัลบั้มรูปถ่าย โดยใช้ชื่อว่า "แพะปิ้งตัวใหญ่" ในปี ค.ศ. 2009 ตามการบันทึกของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามหญ้าหลังบ้านของเขา  โดยพวกเขารู้ว่าในต้นเดือนกรกฎาคม จะมีการหวนคืนมาจัดงานประจำปีโดยบริษัทอัลเลน จำกัดเพื่อหาที่เงียบสงบจากผู้สร้างหนังฮอลลี่วู๊ด ในหนังเรื่องวอลสตรีท ไทคูน และเทค ไททัน  เขาได้มาเป็นเพื่อนกับแบร่ ดิลเล่อร์ ตั้งแต่นั้นมา  เขาเขียนหนั้งสือในหน้าเฟสบุ๊คว่า, มีเวบไซด์อะไรที่แจ้งผลรอบสุดท้ายของถ้วยชิงชนะเลิศระดับโลก? (ผมไม่มีทีวีใช้)  ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม มีการเข้าถึงอย่างง่ายของซุกเกอร์เบอร์กเกี่ยวกับลักษณะเด่นของเฟสบุ๊คที่ เรียกว่าเพลสส์  ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้กาเครื่องหมายสถานที่เมื่อใดก็ได้ในตอนเช้าเวลา 8.45 นาที  เขาอยู่ที่โรงแรมเอส ในเมืองทอผ้าของรัฐนิวยอร์ค    เขากลับมาที่สำนักงานเฟสบุ๊คในปาโล อัลโต  เวลาทุ่มแปดนาที    ในวันที่ 31 สิงหาคม  เวลา 10:38 นาที  เขากับแฟนของเขานั่งทานอาหารเย็นที่ทาเควเรีย ลา แบมบา ในทิวทัศน์ภูเขา    ซุกเกอร์เบอร์คอาจดูเหมือนชอบการเป็นผู้แบ่งปันในยุคของการแบ่งปันที่มากล้น ซึ่งจากความคิดเช่นนี้   แบบจำลองธุรกิจของเขาขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวในรูปแบบใหม่ ๆ  และมีการแสดงตัวตนของตนเองอย่างสนุกสนาน   ยิ่งมีคนตั้งใจที่จะเข้าสู่ออนไลน์เท่าใด เงินที่ได้จากออนไลน์ที่สามารถทำการโฆษณาก็ยิ่งได้มากเท่านั้น  ทำให้เขามีความสุข และมีความหวังในอนาคตของเขา   ธุรกิจของเขาเป็นพันธมิตรอย่างแท้จริงโดยปรัชญาส่วนตัวของเขาเอง ในตอนที่เกี่ยวกับหน้าอัตชีวประัวัติของเขา    เขาเขียนง่ายว่า "ผมกำลังพยายามสร้างโลกที่เปิดกว้างมากขึ้น"  ดูเหมือนว่าโลกจะตอบรับเขา   เวบไซต์ของเขาในปัจจุบันกลายเป็นเครือข่ายทางสังคมในประเทศที่ใหญ่ที่สุดโดย นับจากอินโดนีเซียถึงโคลัมเบีย   ในปัจจุบันนี้อย่างน้อยจะมี 1 ใน 14 คนทั่วโลกจะมีบัญชีเฟสบุ๊คของเขา    เขากลายเป็นราชาหนุ่มแห่งหุบเขาซิลิคอน  เมื่อเฟสบุ๊คเผยแพร่ไปยังสาธารณะมากเท่าใด  เขากลับกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่รวยที่สุดในดาวพระเคราะห์ดวงนี้  และเป็นเศรษฐีหนุ่มพันล้านเพียงคนเดียว  ในเดือนตุลาคมได้มีการตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับ

แวน นิตี้ แฟร์  เขาเป็นบุคคลที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุดหมายเลข 1 ของวารสารจากการจัดอันดับของการจัดอันดับใหม่ โดยนำหน้าสตีฟ จอปส์  ผู้นำกูเกิ้ล และรูเปอร์ต เมอร์ดอช ซึ่งวารสารประกาศฉายาว่าคือ "ซีซ่าร์ยุคใหม่"  ทั้งที่เป้าหมายของเขาเกี่ยวกับการเปิดกว้างทั่วโลก  แต่เขายังคงเป็นบุคคลที่ไม่เปิดตัวและมีโลกส่วนตัวของเขาเอง   เขาไม่ชอบไปพูดกับข่าวทีวี และดูเหมือนจะไม่ค่อยมี  เขาไม่ชอบสนุกสนานกับการปรากฎตัวต่อสาธารณะที่ทำให้ได้รับความสนใจในตัวเขา มาก
จากการจัดงานของ Backstage ที่พิพิธภัณฑ์วประวัิติศาสตร์คอมพิวเตอร์  ในหุบเขาซิลิคอน ในภาคฤดูร้อนนี้   ผู้ดำเนินรายการได้หันมาที่ซุกเกอร์เบอร์ เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่ผู้ดำเนินรายการจะปรากฎตัวบนเวที  และเขาได้กล่าวว่า "ท่านไม่ชอบการจัดงานเหล่านี้มากใช่ใหมครับ"  เขาตอบด้วยอย่างกระัชับว่า "ไม่ใช่ครับ" เขาจิบน้ำจากขวดและมองลอดออกไปที่ไกล ๆ เขามีท่าทีที่ดูเหมือนจะงุ่นง่านระยะหนึ่ง  เขาได้รับเชิญโดยไม่ได้รับคำเชิญจากฮอลลี่วู๊ดให้แสดงหนังเรื่อง "เครือข่ายสังคม" นำแสดงโดยเดวิด ฟืนเชอร์ และเป็นคำประพันธ์โดยแอรอน ซอร์กิ้น  เป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวในงานฉลองเทศกาลภาพยนตร์นิวยอร์ค และจะเปิดฉายในวันที่ 1 ตุลาคม จะเป็นการนำเสนอสิ่งที่โลกได้รับจากซุกเกอร์เบอร์ก  แฟ้มประวัติเฟสบุ๊คมักจะเกี่ยวกับผลงาน คุณเลือกรายละเอียดที่คุณต้องการแบ่งปัน และเลือกสรรคนที่คุณจะแบ่งปัน   ในปัจจุบันซุีกเกอร์เบอร์คได้พบกับผู้เขียนเป็นการสัมภาษณ์ส่วนตัวหลายครั้ง ในช่วงฤดูร้อนนี้   ในการเผชิญหน้าบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นคู่แบ่งปัน เป็นการแพร่หลายต่อสาธารณะในรายละเอียดที่เขาไม่เลือก  เขาไม่ได้วางแผนที่จะชมภาพยนตร์เลย

      สรุป จากประวัติของ Zuckerberg พบว่าเขาเป็นคนที่ไม่ชอบเิปิดตัวกับสังคม แต่เขากลับเปิดโลกข่าวสารให้กับผู้คนทั้งโลกได้สำเร็จ  เขาทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามได้สำเร็จ หรือทำในสิ่งที่คิดว่าตัวตนเขาไม่ชอบทำ แต่เขาทำได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว  ควรที่หนุ่มสาวไทยควรเอาเยี่ยงอย่าง อย่างที่นายกรัฐมตรีหญิงผู้อายุน้อย ที่ไม่เคยคิดจะเป็นนายกรัฐมนตรี และไม่ค่อยปรากฎตัวแต่เธอกลับมาปรากฎตัว และทำหน้าที่และอาสาทำอย่างที่ไม่เคยคิดจะเป็นมาก่อนเลย