ผู้นำการเมือง 10 คนที่มีผลงานเยี่ยมยอดของโลก

   จากบทความของ วาดวาไน เน็นซู ให้ทัศนะประชาธิปไตยและเผด็จการเป็นสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกันของความต่อเนื่องในอำนาจที่เกิดขึ้นจากการเผยแพร่ความคิดของผู้นำ และนักการเมือง ซึ่งพวกเขามีความเป็นพลวัตรและดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง  เมื่อผ่านไปวันแล้ววันเล่าคำมั่นสัญญาก็เต็มไปด้วยความว่างเปล่า สิ่งเหล่านี้คือบุคคลที่มีการเปลี่ยนแปลงอุดมคติ และการเผชิญหน้ากับการเมืองในประเทศ   ในยุคใหม่นี้ผู้นำภาครัฐได้มีการนำการปฏิรูปจากคนรุ่นก่อนที่ลงสัมผัสอย่างระมัดระวังซึ่งพวกเขาอาจเกรงว่าจะสูญเสียความพอใจของประชาชน)  บางคนอาจมีการติดยึดเ้ก้าอี้ที่ยังอยู่ในความทรงจำ และหัวใจประชาชนในประเทศซึ่งในที่นี้เรามองภาพทางการเมืองที่มีลักษณะพิเศษของผู้นำ 10 คนในยุดของเราที่กล้าจะสร้างสรรค์ประวัติศาสตร์
   1. จอห์น เอฟ.เคนเนดี้  เป็นประธานาธิบดีที่ถามประชาชนในประเทศว่า "อย่าถามว่าท่านจะได้อะไรจากประเทศชาติ แต่จงถามว่าท่านจะให้อะไรกับประเทศชาติได้บ้าง"  เขาเป็นผู้นำแบบบารมี ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา เป็นคนที่มีชื่อเสียงในแบบของเขาที่ได้รับการเลือกตั้งจากแนวคิดทัศนะที่แตกต่างและการประยุกต์ใช้ในการนำมาใช้ในทำเนียบขาว เขาเจอวิกฤติการณ์สงครามที่คิวบา เป็นผู้สร้างกำแพงเบอร์ลิน สงครามเย็นและการเริ่มต้นของสงครามเวียดนาม
   2. บารัค โอบามา  เป็นประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา  เขาเป็นชาวอเมริกัน
อัฟริกาได้รับการเลือกตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่ง เขาก้าวเข้าสู่บทบาทในขณะที่ช่วงเศรษฐกิจมีปัญหาเกี่ยวกับการว่างงาน และการถดถอยทางเศรษฐกิจที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นผู้ชนะรางวัลโนเบิลไพรส์ในฐานะผู้ประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่เป็นทนายความ และเป็นผู้ประพันธ์หนังสือก่อนที่เขาจะมารับตำแหน่งสูงสุดในดาวพระเคราะห์ดวงนี้  ถึงแม้ว่าการทำพิธีเข้าสู่ตำแหน่งในวันรุ่งขึ้นในสหรัฐอเมริกา  เขายังไม่ประสบความสำเร็จในการทำตามสัญญากับงานของเขาในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เขาก็แสดงตนว่าไม่นำสงครามอเมริกาภายใต้วาระการก่อร้ายจากการตัดสินใจถอนกำลังกองทัพออกจากอิรัค
    3. อินทรา คานธี  ผู้นำชาวอินเดียที่ถูกลอบยิง เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ
เป็นที่รู้จักกันว่าเธอเป็นผู้นำแบบอัตตาธิปไตย  ชาวอินเดียยังคงเชื่อว่าไม่มีนักการเมืองคนใดที่จะแสดงถึงไหวพริบทางการเมืองและลอกเลียนแบบคานธี เป็นที่รู้กันว่าเขาเกิดในครอบครัวนักการเมือง หล่อนได้ติดตามในยุคสมัยพ่อของเขาที่ชื่อว่าเยาวฮาลาลเนห์รู เป็นบุคคลที่เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ระหว่างการดำรงตำแหน่งอินทรา  คานธีเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามอินโด-ปาก ซึ๋งเป็นการปฏิบัติตามการประกาศฉุกเฉินในประเทศ  วิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและเหนือสิ่งอื่นใด เป็นการคุกคามจากผู้ก่อการร้ายครั้งแรกในความมั่นคงของอินเดีย  เธอเป็นคนที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานที่สุดในโลก
   4. เหมา เจ๋อ ตุง บิดาแห่งยุคคอมมิวนิสต์ในประเทศจีน ด้วยกลยุทธ์ทางการทหาร และการศรัทธาต่อลัทธิมาร์กซิส-เลนินนิสม์ ได้ศึกษาจนกลายเป็นลัทธิเหมา  เขาเป็นหัวหน้าพรรคสาธารณรัฐประชาชนจีนจากจุดเริ่มต้นในการอนิจกรรมของเขาในปี ค.ศ.1976 คนจีนส่วนใหญ่ต้องการความมั่นคงทางเศรษฐกิจ,ความเจริญก้าวหน้าและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่ต่อจากยุคเหมา เจ๋อ ตุง ภายนอกประเทศจีน เขายังคงเป็นภาพที่ตรงกันข้ามในสิ่งที่รับผิดชอบต่อนโยบายอย่างเข้มงวดต่อผู้ต่อต้านคอมมูนิสต์
    5.วลาดิเมียร์ ปูตินเป็นนายกรัฐมนตรีของรัสเซียที่มีเงื่อนไขความสำเร็จสองประการในฐานะประธานาธิบดีของประเทศ อดีตเป็นผู้ปฏิบัติงานเป็นสายลับเคจีิบี  ปูตินได้ลิ้มรสการเมืองครั้งแรกเมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งในฐานะที่ปรึกษากิจการภายในประเทศกับนายกเทศมนตรีโซชัค  เขาได้รับความเชื่อถือในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ และเป็นที่ประทับใจ ความมั่นคงทางการเมืองในประเทศและลดภาษีเงินได้เป็นอัตราภาษีคงที่ 13 % ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตมวลรวมประชาชาติ
    6. ฟิเดล คาสโตร ได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดีของคิวบาเป็นเวลานานเท่าที่จำได้  ในขณะที่นโยบายของเขา เป็นสิ่งรับใช้ในการใช้ความสามารถพัฒนาชาิติได้อย่างสวยงาม  เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะวีรบุรุษในประเทศของเขา   คาสโตรได้กลับมามีอำนาจในฐานะผลของการปฏิวัิตคิวบาที่ขับไล่บาติสตาจอมเผด็จการผู้นิยมชาวอเมริกา   คาสโตรได้กลับมามีอำนาจในฐานะนักปฏิวัติชาวคิวบา  ได้เปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่พรรคการเมืองพรรคสังคมนิยมเป็นพรรคเดียวทำให้เขามีชื่อเสียงในนามผู้ต่อต้านอเมริกา   นโยบายของเขาเป็นการเรียกร้องในความโดดเดี่ยวของการสนับสนุนขบวนการความเคลื่อนไหวที่นำผู้อพยพในประเทศอเมริกา และคนจำนวนมากที่มีส่วนร่วมกับในอ่าวเบย์พิกส์ อินเวชั่น  เขารับผิดชอบกับการรบที่คิวบาซึ่งนำไปสู่สงครามระหว่างสหรัฐอเมริกากับอดีตผู้นำชาวรัสเซีย
     7.มาห์มุด อาห์มาดินจ๊าด เป็นผู้นำชาวอิหร่านที่มีชื่อเสียงในฐานะที่มีลีลาการแต่งตัวแบบพิเศษ และวาทะที่ต่อต้านชาวอเมริกันมากกว่าผลงานที่แท้จริงที่เขาได้ทำสำเร็จในประเทศของเขา  เป็นผู้นำผู้เคร่งศาสนาแนวหน้าถูกมองว่าเป็นหุ่นเชิดภายใต้นักนิยมมุสลิม อาห์เมนดิจ๊าดไม่ไ้ด้เป็นคนแปลกหน้าที่มีการขัดแย้งภายในประเทศของเขา  เขามีชื่อเสียงในฐานะผู้ไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนและหายนะทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์ตามท้องถนนในกรุงเตหะรานในการแสดงถึงสินค้าราคาแพงมากที่สุด  เขายังมีชื่อเสียงในการดื้อดึงกับสหรัฐอเมิรกาและสหประชาชาติในทัศนคติเกี่ยวกับการสร้างอุปกรณ์พลังนิวเคลียร์ในประเทศ  ซึ่งเป็นความเชื่อผู้นำโลกสูงสุดต่อการผลิตอาวุธนิวเคลียร์เพื่อการทำลายล้าง
    8. โทนี่ แบร์  เป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษมาเป็นเวลา 10 ปีเป็นผู้รู้จักในฐานะเป็นผู้กำหนดนโยบายความมั่นคงในประเทศและในนานาชาติ  เขาได้รับการยกย่องในการมีส่วนร่วมสงครามในสหรัฐเกี่ยวกับผุ้่ก่อการร้าย และข้อตกลงเดอะกู๊ดฟรายเดย์ในไอร์แลนด์เหนือ   แบร์เป็นนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานที่สุดโดยนำพรรคแรงงานได้รับชัยชนะถึง 3 ครั้งติดต่อกัน
    9. โมฮัมหมัด อาลี จินน่าห์ เป็นสมาชิกคนสำคัญของขบวนการเรียกร้องเอกราชชาวอินเดีย  จินน่าห์ไม่พอใจกับความจริงที่ว่าเนห์รูได้รับการสถาปนาเป็นนายกรัฐมตรีคนแรกของสาธารณรัฐอินเดียวในฐานะที่เป็นคู่ต่อกรกับเขา  ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้เขาละทิ้งวิถีทางศาสนาและก่อตัวชาวปากีสถานเป็นรัฐมุสลิมซึ่งเป็นรัฐอิสระ   การแบ่งแยกดินแดนนำไปสู่การจราจลระหว่างชาวฮินดูและมุสลิมในประเทศจำนวนหลายพันคนทั้งผู้ชาย,สตรี และเด็กถูกฆาตกรรมโดยเผาทั้งเป็น  อย่างไรก้ตามจินน่าห์ไม่ได้มีชีวิตอย่างมีความสนุกสนานจากผลพวงของการทุ่มเทของเขา ในขณะที่เขาตายเพียง 1ปีหลังจากได้รับเอกราชของปากีสถานจากจักรวรรดิ์อังกฤษ
    10. บิลล์ คลินตัน ในช่วงที่โมนิก้า ลูวินสกี้ ทำให้ภาพพจน์ของเขาแปดเปื้อนเสียหาย คลินตันยังคงได้รับการยอมรับเป็นผู้นำที่สามารถสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตของสหรัฐอเมริการ  เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เปิดแสนยานุภาพในทางการทหารในการเผชิญหน้ากับนักเผด็จการที่ชื่อซัดดัม ฮุนเซ็น ในขณะที่ผู้นำการเมืองอีกพรรคหนึ่งอาจจะมีชุดความคิดอุดมคติที่แตกต่างกัน และสิ่งจูงใจแตกต่างกัน  ผู้นำเหล่านี้ต้องการจับตาเอาใจใส่ในโลกนี้เป็นพิเศษ  ไม่ว่าจะเป็นเชิงลบหรือเชิงบวก สำหรับโลกนี้เป็นที่ทราบในปัจจุบันจะเป็นที่จดจำเมื่อเวลาผ่านไป
      โดยสรุป ผู้นำทางการเมืองมีทั้งเป็นนักเผด็จการ และนักประชาธิปไตย ที่สามารถสร้างผลงานให้สำเร็จได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวบุคคลที่สร้างผลงานให้กับชาวโลก  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบุคคลทางการเมืองเหมือนตัวแสดงละครในโลก บทบาทที่เขาแสดงได้รับการยอมรับจากประชาชนมากน้อยแค่ใหน   สามารถฝากผลงานที่ยิ่งใหญ่และอวดโฉมชาวโลกได้เพียงใด  ดังคำกล่าวที่ว่า "ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน มิใช่ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร" ซึ่งสังเกตุว่าผู้นำที่ยิ่งใหญ่มักเป็นตัวของตัวเอง มีอุดมการณ์สูง สามารถชักนำมวลชนให้เป็นที่ชื่นชอบศรัทธาได้ และชื่อเสียงจะเป็นที่ยอมรับอย่างยาวนานกลายเป็นตำนานประวัติศาสตร์แก่อนุชนรุ่นหลังได้


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ