ประชาธิปไตยในภูฎาน


 

 
        เมื่อย้อนหลังในปี ค.ศ.1907 เมื่อเริ่มต้นในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในประเทศนี้ในปัจจุบันนี้จากศตวรรษที่ผ่านมาในประวัติประเทศ  ปัจจุบันนี้เป็นเวลาศตวรรษผ่านมาในประวัติศาสตร์ประเทศภูฎาน  ชาวภูฎานคิดถึงประชาธิปไตยในเชิงโครงสร้าง   ประชาธิปไตยมีจุดยืนเพื่อประชาชน และโดยประชาชน และเป็นของประชาชน  รัฐบาลประชาธิปไตยริเริ่มโดยดยุ้ค กัลโล จิ๊กมี่ ซิงกี้ วังชุค ได้มองเห็นความจำเป็นเกี่ยวกับอิสรภาพในทัศนะและความคิดของสาธารณชน   เป็นสิ่งคำนวณเกี่ยวกับการจัดการรัฐบาลที่ดี และเป็นผลประโยชน์เพื่อพลเมือง   ในเดือนมีนาคม ค.ศ.2008 ซึ่งมีการเลือกตั้งโดยรัฐสภาครั้งแรกเกิดขึ้นโดยมี 2 พรรคที่เต็มไปด้วยพลังและความฝัน   พรรคการเมืองสองพรรคนี้ได้แก่พรรคประชาธิปไตยประชาชน และพรรคดยุค เฟ็นซัม โชวปา  การเลือกตั้งได้ดำเนินาการแล้วปรากฏว่าพรรคประชาธิปไตยประชาชนได้รับชัยชนะอย่างเอกฉันท์
                ประเทศภูฎานหลังจากมีการเลือกตั้งตามครรลองประชาธิปไตย ก็ได้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อว่า เลียนเชิน จิ๊กมี่ ยูเซอร์ ทินเลย์  และพรรคฝ่ายค้านพรรคแรกคือ เลียนโป ทเชอร์ลิง ทอบเกย์  พรรคที่ได้ปกครองเป็นที่รู้กันคือพรรครัฐบาลซึ่งเป็นพรรคการเมืองของเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาซึ่งไม่ได้ปกครองประเทศเท่านั้น แต่ยังควบคุมดูแลผู้บริหารหน่วยงานรัฐบาล หรือกลุ่มการเมืองที่คัดค้านในพรรคการเมืองรัฐบาลที่มีอำนาจปกครองด้วย    ข้อดีของประชาธิปไตยในภูฎานคือว่าดูเหมือนว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในแง่ของกิจกรรมการพัฒนาเช่นเดียวกันกับขอบเขตเกี่ยวกับการศึกษา  ประชาชนกำลังคิดถึงวิธีในการปรับปรุงอย่างค่อยเป็นค่อยไป  สิทธิในสื่อยังเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศของเราซึ่งช่วยให้พลเมืองได้ปกป้องข่าวสารข้อมูลและข่าวสารภายในประเทศ และภายในโลก
               เมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสียด้วย  ด้วยการปกครองแบบประชาธิปไตย ประชาชนถูกครอบงำที่ทำให้ไม่เข้าใจการศึกษาในความหมายของประชาธิปไตย  เขาไม่ได้ใช้สิทธิมนุษยชนโดยไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและการสร้างความสับสนในภาคพลเมือง  ผลที่เกิดขึ้นของการปกครองแบบประชาธิปไตยในประเทศนี้ก็คือไม่มีวัฒนธรรมทางการเมืองหรือการศึกษาการเมือง  ประชาชนยังคงเป็นคนที่อยู่ในสัญญาลักขณ์ของอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติตาม   ประชาธิปไตยในบริบทของชาวภูฎานเป็นเพียงสาระสำคัญที่ยังเบาบาง เพราะว่าประชาชนยังไม่ไม่สามารถเข้าใจกฎหมายเกี่ยวกับการเมือง  บุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ที่สูงกว่าจะอธิบายความหมายของประชาธิปไตยแก่ชาวบ้าน ยังคงมีความเกรงกลัวเงียบเกี่ยวกับการไม่ลุกฮือในการสร้างความสับสนเกี่ยวกับการอีกฝ่ายหนึ่ง
                 สรุป การปกครองแบบประชาธิปไตยของภูฎานเพิ่งเริ่มนับหนึ่ง ซึ่งยังขาดการวางพื้นฐานประชาธิปไตยในระบบการศึกษา ซึ่งในประเทศไทยระบบการศึกษาก็ไม่ค่อยได้ถ่ายทอดจิตวิญญานประชาธิปไตย และยังไม่เข้าใจประชาธิปไตยไม่ลึกซึ้ง และวิชาประชาธิปไตยที่จะนำมาวิพากย์เพื่อสร้างให้เป็นแก่นแก่นจิตสำนึกแก่ผู้เรียนยังขาดอยู่มาก  ดังนั้นหากผู้สอนมิใช่แม่พิมพ์ประชาธิปไตยแล้ว สังคมไทยจะคาดหวังให้ใครเป็นแม่พิมพ์ได้ ก็จะกลายเป็นแม่ปูหรือมิฉะนั้นก็จะพูดอย่างเบาบาง ทำให้ความรักประชาธิปไตยในหมู่นักศึกษายังมีน้อยอยู่ในปัจจุบัน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ