ขอชื่นชมกับภาคธุรกิจเอกชนร่วมมือกันตอบรับค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน

          เป็นความหวังใหม่ที่ภาคธุรกิจเอกชนหลายแห่ง เช่นบริษัทซีพี,บริษัทขอนแก่นเริ่มมีการตอบรับกับการเพิ่มคุณภาพชีวิตของลูกจ้าง,คนงานต่าง ๆ ในอัตราค่าจ้างวันละ 300 บาท ซึ่งนับเป็นเรืองดีที่แสดงถึงความใจกว้างกับคนงานผู้สร้างโลก และความเจริญแก่ประเทศชาติแต่วิถีชีวิตของเขาไม่ได้มีความร่ำรวยอะไรเลย และมีชีวิตที่ลำบากยากจนหาเช้ากินค่ำไม่ได้สุขสบายเหมือนนายทุนธุรกิจ หากนายทุนธุรกิจพยายามผลักดันให้เพิ่มอัตราค่าจ้างก็แสดงว่านักธุรกิจของไทยจะได้มีการพัฒนาคุณภาพสินค้า หรือการบริการที่ดี เพื่อเข้าสู่การแข่งขันบนเวทีโลก ซึ่งเป็นการรองรับกับการแข่งขันในเวทีเอเชีย และเวทีระดับโลก  นักธุรกิจของเราจะได้มีการพัฒนาวิธีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ, ประสิทธิผล และหาวิธีการประหยัด หรือลดต้นทุนด้านอื่น ๆ หรือยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการก็เท่ากับว่าท่านได้ช่วยชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะแรงงานเป็นผู้สร้างสรรค์โลก  หากไม่มีแรงงานแล้วนายทุนก็ไม่สามารถสร้างหรือพัฒนากิจการธุรกิจให้รุดหน้าก้าวไกลได้  เท่ากับยกระดับประเทศชาติของเราให้เจริญก้าวหน้า โดยมาลดค่าใช้จ่ายในการขจัดปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น โดยรวมตัวกันไม่ยอมเสียค่าน้ำร้อนน้ำชาหรือเสียเบี้ยใบรายทาง  แต่หากวิธีการแก้ปัญหาซึ่งนักธุรกิจต้องการความรวดเร็วจากงานภาครัฐเพื่อความรวดเร็ว ก็อาจมีการเสียค่าบริการเพื่อความรวดเร็ว และเงินที่รัฐได้จากค่าธรรมเนียมบริการก็เปรียบเสมือนเงินที่เก็บไว้เป็นกองกลางสำหรับสวัสดิการข้าราชการ หรือเป็นเงินสวัสดิการประชาชน ก็เท่ากับว่าสังคมมีการเอื้ออารีมีน้ำใจ  นายทุนเศรษฐีในบ้านเราก็จะเหมือนในต่างประเทศที่เขาไม่กดค่าแรงงาน แต่เขาพยายามทำให้คนงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสวัสดิการหรือค่าตอบแทน และพยายามเปลี่ยนคนงานเป็นพลเมืองขององค์กรธุรกิจ (citizenship) เท่ากับยกระดับฝึมือ,ทักษะ,ความสามารถอย่างสูงเพื่อนำไปสู่องค์การแห่งความเป็นเลิศ (High performance organization)  และแม้แต่ภาครัฐก็ต้องปรับตัวเพราะข้าราชการเมื่อเงินเดือนสุงขึ้นก็จะจูงใจให้คนดีมีฝีมือเ้ข้ามาทำงานในหน่วยงานราชการมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องพึ่งพากับเงินที่ทุจริตเพราะเป็นการเสียเกียรติความเป็นข้าราชการได้  หากปรากฎว่าข้าราชการหน่วยงานใดมีความซื่อสัตย์สุจริตก็สมควรมีค่าตอบแทนความซื่อสัตย์กับหนวยงานนั้นได้ โดยไม่มีข้อครหาในเรื่องการทุจริต แต่ถ้าหากมีก็จะมีการลงโทษข้าราชการที่บกพร่องต่อหน้าที่  ทำให้งานบริหารราชการไทยจะมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอนารยะประเทศ เปลี่ยนข้าราชการให้มีจิตสำนึกในฐานะข้าราษฎร ทำให้สังคมมีสุขถ้วนหน้า และลดปัญหาอาชญากรรม และการปล้นจี้ต่าง ๆ  แต่อย่างไรสิ่งนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ต้องอาศัยเวลาพัฒนาไปเป็นขั้นตอน จนประเทศไทยกลายเป็นประเทศพัฒนา (Developed country) เหมือนกับประเทศอื่น ๆในโลกนี้ที่มีความเจริญทั้งทางด้านประชาธิปไตย ทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคมสวัสดิการ เป็นที่มาของสังคมแห่งความสุข ลดปัญหาการยกย่องคนมีอำนาจ หรือความร่ำรวยอย่างไม่ถูกต้อง  ค่านิยมดังกล่าวช่วยพัฒนาประเทศไทยให้แข็งแรง ทำให้คนรุ่นต่อไปมีอนาคตกับบ้านเมืองที่ไม่วุ่นวายเหมือนทุกวันนี้
        โดยสรุป นับเป็นนิมิตหมายดี และโอกาสดีของประเทศไทยที่เป็นบรรยากาศแห่งความหวังใหม่ที่ดี หากทุกคนในประเทศมีความร่วมมือกันในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความก้าวหน้า ทุกคนประสบความสำเร็จ มิใช่คนใดคนหนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งประสบความสำเร็จ นั่นคือความสำเร็จของคนทุกคนในชาติ ดังคำที่ว่าเป็นเกมส์ที่ผู้เล่นทุกคนเป็นผู้ชนะ, และทุกคนได้รับความสุข (All the win games, All the people happiness)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ