รัฐบาลเก่าควรให้โอกาสนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย

     สิ่งที่รัฐบาลเก่าควรให้โอกาสผู้ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้ซึ่งเป็นผลพวงของมหาชนทั้งประเทศได้แสดงออกถึงเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ควรที่จะสกัดกั้นในทุกรูปแบบ หรือใช้กฎหมายที่ไม่มีขอบเขต และการออกมาต่อต้านของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่คอยประท้วงเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางประชาธิปไตยเขาไม่ทำกัน เพราะมีเหตุผลมากมายที่ กกต.ควรพิจารณาถึงผลดีผลเสีย มิใช่มองรูปแบบแต่เพียงกฎหมายที่ไม่ได้เขียนขึ้นมาโดยประชาชน แต่เป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งมาเขียนกฎหมาย หรือเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้รับฉันทามติจากประชาชนไทยทั้งประเทศ นับว่าเป็นการไม่ให้เกียรติหรือเคารพอธิปไตยของปวงชน ซึ่งถ้าจะมองถึงความบกพร่องผิดพลาดในการบริหารบ้านเมืองพบว่ารัฐบาลเก่านั้นทำให้บ้านเมืองเีสียหายหลายเรื่องเช่นกัน
    1. การที่ประชาชนที่มาเรียกร้องประชาธิปไตยถูกสังหาร 91 คน และบาดเจ็บ 2,000 กว่าคน ซึ่งคดียังไม่คืบหน้า
    2. ผู้ที่ออกมาต่อต้านซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตย เคยได้เ้ข้าไปยึดสนามบิน หรือทำเนียบรัฐบาล ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติถึง 300,000 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้ก็ยังไม่ดำเนินการอะไรที่ชัดเจน
    3. การที่ กกต.เคยตัดสินรัฐบาลที่กระทำความผิดในการใช้เงินโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งมีข้อเท็จจริงที่ฝ่ายค้านได้แสดงความชัดเจน แต่ปรากฎว่า กกต.ก็ไม่ได้มีการตัดสินยุบพรรคการเมือง ซึ่งในระบบการยุบพรรคการเมืองไม่มีประเทศใดในโลกใครเขาทำกัน  หากใครผิดก็ควรตัดสินเฉพาะบุคคลนั้น
    4. ผลงานรัฐบาลที่ผ่านมาก่อให้เกิดหนี้สินสาธารณะมากกว่า 1.5 ล้านล้านบาท รวมถึงการขาดดุลการค้า  รวมทั้งสิ้นที่ทำให้รัฐบาลเสียดุลการค้าถึง 3 ล้านล้านบาท ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ชี้แจง
    5. กกต. มีท่าทีที่เอียงข้างกับฝ่ายอำนาจของผู้ที่มีบุญคุณเนื่องจากได้รับการแต่งตั้งจากการรื้อรัฐธรรมนุญของคณะรัฐประหาร ซึ่งไม่ใช่กฎหมายที่ประชาชนร่างมา ดังนั้นการเห็นความสำคัญของคนในชาติ หรือมองว่าปัจจัยของเสียงส่วนใหญ่ (Majority Rule) เขาเลือกมาเพื่อให้แก้ปัญหาที่รัฐบาลเก่าได้สร้างปัญหาขึ้นมา และแสดงว่าประชาชนไม่ต้องการรัฐบาลเก่า  ไม่ควรใช้กลไกใด ๆ ที่แทรกแซงหรือแสดงการเลือกข้างย่อมเป็นการแสดงถึงความไม่เหมาะสม และสายตานานาชาติจ้องมองไปยังประเทศไทยอย่างไม่กระพริบตา  หากการตัดสินไม่มีความยุติธรรมแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่มิใช่กฎหมู่แต่เป็นกฎสวรรค์ที่ประชาชนมอบอำนาจหยิบยื่นให้  หากมิใช่ความผิดอะไรที่รุนแรงก็ควรเปิดโอกาสให้รัฐบาลชุดใหม่ได้มีโอกาสบริหารประเทศ และท่านเองก็จะได้รับการยอมรับและยกย่องจากความกล้าหาญในการตัดสินใจอันชอบธรรม เสมือนหนึ่งว่า "น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง"
    6. กกต.ควรมองปัจจัยในภาพรวม และเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนมากกว่าเสียงส่วนน้อย เพราะเป็นจริยธรรมขององค์กร กกต.ว่ามีจริยธรรมทางประชาธิปไตยหรือไม่ เพราะในสังคมการกีดกัน,กลั่นแกล้ง หรือละเมิดสิทธิของประชาชนเริ่มมีมากขึ้น  ดังนั้น กกต.ควรยอมรับจากมติมหาชนส่วนใหญ่ ไม่ควรรับฟังเสียงส่วนน้อย เพราะบุคคลที่เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงก็เป็นบุคคลที่มีบุคลิกภาพนิมนวล เป็นที่พอใจของประชาชน กกต.ไม่ควรส่งเสริมการล้มระบบการเมืองแบบประชาธิปไตย เพราะขณะนี้ปรากฎการณ์ กกต.เป็นองคาพยพของรัฐประหารซึ่งไม่ใช่ประชาธิปไตย และกฎหมายก็ไม่ใช่กฎหมายประชาฺธิปไตย แต่เป็นกฎหมายที่คนส่วนน้อยเขียนบังคับคนส่วนใหญ่
   7. เสียงส่วนใหญ่ของประเทศต้องการเน้นชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และจากเอแบคโพลล์เสียงกว่า 80 % ต้องการให้คุณยิ่งลักษณ์ มาเป็นนายกรัฐมนตรี  ดังนั้นหากมีการแขวน หรือไม่ยอมรับ ก็จะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ
   8. กกต.เองก็บริหารจัดการดูแลเลือกตั้งซึ่งเกิดความผิดพลาดหลายประเด็น เช่นคนไม่มีโอกาสใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต 1ล้านกว่าคน มีการทุจริตตามหน่วยเลือกตั้งอย่างมาก สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการจัดการเลือกตั้งที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่ กกต.ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบในการปฏิบัติครั้งนี้
      สรุป ควรนึกถึงประเทศชาติก่อนเรื่องส่วนตัว คิดถึงเสียงส่วนใหญ่มากกว่าเสียงส่วนน้อย, คิดถึงความก้าวหน้าของประเทศชาติมากกว่าความก้าวหน้าของคนกลุ่มเล็ก ๆ, คิดถึงความหวังของประชาชนผู้ยากไร้มากกว่าผู้ร่ำรวย ฯลฯ  จึงจะเป็น กกต.ของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ