บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2012

โครงสร้างหลักสูตรในการศึกษาปริญญาโทวิทยาลัยเทเรซา นานาชาติ

ผู้สนใจศึกษาหลักสูตรรายวิชาที่เรียนในหลักสูตรปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์ รุ่นแรก   เพื่อปรับตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน            ๑) กลุ่มวิชาปรับพื้นฐาน สำหรับผู้ที่ไม่ได้จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีทางรัฐศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์ จะต้องศึกษาวิชาปรับพื้นฐานโดยไม่นับหน่วยกิต และและสอบให้ได้ระดับผ่าน ( P) 1.   ความรู้เบื้องต้นทางรัฐประศาสนศาสตร์ ( 3) 2.   ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในบริบทอาเซียน ( 3) ๒) กลุ่มวิชาเอกบังคับ ( 15 หน่วยกิต) 1.   การวิจัยทางรัฐประศาสนศาสตร์( 3) 2.   สถิติสำหรับการวิจัยทางรัฐประศาสนศาสตร์( 3) 3.   สัมมนาการเมือง,สังคมและเศรษฐกิจของไทย( 3) 4.   ทฤษฎีองค์การและพฤติกรรมภาครัฐ( 3) 5.   การบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์การ   ( 3) ๒)กลุ่มวิชาเลือก แผน ก ให้เลือกเรียน 3 วิชา 9 หน่วยกิต                                แผน ข ให้เลือกเรียน 5 วิชา 15 หน่วยกิต                   1. กฎหมายมหาชน       ( 3)         2. การบริหารการพัฒนา ( 3)        3. การคลังสาธารณะและงบประมาณ ( 3)        4. สัมมนาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการประเมิน            ผ

แนวโน้มเอียงของทรัพยากรมนุษย์

                    งานทรัพยากรมนุษย์ได้มีการปฏิบัติในรูปแบบความนิยมที่เป็นสิ่งละอันพันละน้อย   กลุ่มที่จัดหาบุคลากรมุ่งเน้นในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสนองตอบการจ้างงานใหม่ของผู้มีคุณสมบัติ    การจ่ายค่าตอบแทนที่ดิ้นรนเพื่อจะสนับสนุนความเท่าเทียมในการจ่ายค่าตอบแทนและผลประโยชน์เกื้อกูลเพื่อบุคลากรทั้งหมดโดยการฝึกอบรมกระตุ้นให้บุคลากรให้มีความรู้ใหม่และทักษะใหม่ ๆ   แต่ละกลุ่มที่จัดหาบุคลากรดูเหมือนจะประจักษ์ชัดถึงอีกกลุ่มหนึ่งในการจัดหาบุคลากรว่าการทำงานอย่างเป็นอิสระเพื่อบรรลุเป้าหมายวัตถุประสงค์ของปัจเจกชน    สิ่งนี้คือความไร้ประสิทธิภาพในการยอมรับผลการปฏิบัติงานในองค์การที่มุ่งผลงานสูงสุด   มันคือสัญญาลักขณ์ของหน่วยงานที่ไม่ได้ตระหนักถึงจุดประสงค์ที่เหนือกว่านั่นคือความเติบโตในทุนมนุษย์                     สิ่งสำคัญที่สุดที่การเปลี่ยนแปลงในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่เราได้พบเห็น เมื่อ 40 ปีก่อนในธุรกิจก็คือการเคลื่อนไหวในด้านความร่วมมือ ผู้บริหารระดับสูงปรากฎว่าได้ตระหนักว่ามีเวลาและสถานที่สำหรับความร่วมมือแม้แต่กับคู่แข่งขัน    ความพยายามในก้าวไปอย่างโดดเดี่ยวในตลาดการแข่

ความหวังแห่งอนาคตเกี่ยวกับทุนมนุษย์

          คนเราส่วนมากในยุคคนทำงานฝ่ายบุคลากรในยุคต้น ๆ ดูแล้วเป็นคนดี   พวกเขาไม่ได้เน้นเรื่องธุรกิจเลย และได้รับอิทธิพลในสิ่งที่พวกเขากระทำและวิธีการที่เขาได้กระทำ   ในขณะที่ฝ่ายจัดการได้สังเกตรูปแบบการบริหารงานต่าง ๆ  จึงได้หันกลับมามีความเชื่อว่าสิ่งนี้เป้นสิ่งที่ฝ่ายบุคลากรควรเป็นไปในอนาคต  ซึ่งได้กล่าวมาแล้วตอนต้น   ฝ่ายบุคลากรหลายคนยังคงทำงานในฐานะฝ่ายทรัพยากรมนุษย์   เมื่อปีที่่ผ่านมาผู้เขียนได้นั่งอยู่กับโต๊ะตัวหนึ่งรายล้อมด้วยสตรีจำนวนมากจากการสำรวจของบริษัท 500 บริษัทโดยวารสารฟอร์จูน  และได้ไต่ถามพวกเขาเกี่ยวกับกิจกรรมที่่เขาทำอยู่ในปัจจุบัน   มีสตรีคนหนึ่งอาสาขึ้นมาพูดว่าบริษัทเพิ่งได้รับชัยชนะในการทำสัญญาที่สำคัญกับรัฐบาล ที่กำลังดำเนินการเกี่ยวกับการสื่อสารดาวเทียม   และแล้วหล่อนได้หันหลังไปหาเพื่อนร่วมงานของเขาและถามว่ามันคือสัญญาอะไร? สตรีคนนั้นตอบว่า "ฉันไม่รู้ ฉันพยายามที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบริษัทนี้"            ในระหว่างทศวรรษเมื่อปี ค.ศ.1990  วิชาชีพทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์สายพันธ์ใหม่เริ่มต้นเกิดขึ้นซึ่งไม่เหมือนกับรุ่นก่อน ๆ ทั้งผุ้ชายและผู้หญิงม

วิธีการจัดเตรียมพิธีลงนามความร่วมมือในบันทีกความจำในข้อตกลงร่วมกัน (MOU)

MOU ย่อมาจาก Memorandum of Understanding ซึ่งแปลว่าบันทึกความจำในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างระหว่างบุคคลสองคณะ หรือมากกว่านั้น   เอกสารนี้มิได้ผูกพันเหมือนสัญญา (contract) แต่เป็นโครงร่างข้อผูกพันระหว่างคณะทำงานที่จะปฏิบัติงานเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน  เอกสารนี้จึงไม่ได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางถึงเรื่องการแลกเปลี่ยนเป็นเงิน   แต่ MOU จะช่วยให้องค์การที่ไม่เน้นแสวงหากำไรในการกำหนดความเป็นหุ้นส่วนและการบริการที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยน          ข้อเสนอแนะในการจัดทำ MOU          1. จัดให้มีการประชุมซึ่งได้แก่คณะทำงานทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ในการประชุมนี้จะพิจารณาถึงหน้าที่ (function),การบริการหรือทรัพยากรที่มีการแบ่งปัน  คุณจะต้องอภิปรายแผนที่มีรายละเอียดถึงวิธีการที่องค์การจะดำเนินการร่วมกัน          2. เขียนรายชื่อของคณะทำงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และเขียนวัตถุประสงค์หลักของข้อตกลง รายละเอียดจะเป็นผลที่ได้รับโดยเฉพาะในสิ่งที่ได้คาดหวังไว้          3. กำหนดช่วงเวลาที่จะดำเนินการความเป็นหุ้นส่วนจะมีการเริ่มต้นเมื่อใดและจะสิ้นสุดเมื่อใด จงกำหนดให้ชัดเจนและบันทึกวันใน MOU          4. เขี

ทฤษฎีความคาดหวัง (Expectancy) คืออะไร?

          ตามทัศนะของนักวิชาการที่ชื่อวิคเตอร์ วรูม (Victor Vroom) เกี่ยวกับแรงจูงใจและการจัดการ ทฤษฎีของรูมคาดคะเนว่าพฤติกรรมเป็นผลมาจากทางเลือกภายใต้จิตสำนึกท่ามกลางทางเลือกต่าง ๆ จุดประสงค์ทางเลือกคือความพอใจสูงสุด, ความเจ็บปวดต่ำสุด  สำหรับเพื่อนร่วมงานของเขาได้แก่เอ็ดวาร์ด ลอเร่อร์ และไลแมน พอร์ตเตอร์  รูมให้ทัศนะว่าความสัมพันธ์ของพฤติกรรมของคนในที่ทำงานและเป้าหมายของเขามิได้เกิดขึ้นอย่างง่ายดายเหมือนจินตนาการของนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ   รูมตระหนักถึงความสำคัญผลงานของบุคลากรขึ้นอยู่กับปัจจัยของบุคคล เช่นบุคลิกภาพ,ทักษะ,ความรู้,ประสบการณ์และความสามารถ           ทฤษฎีความคาดหวังกล่าวว่าบุคคลมีชุดของเป้าหมายที่แตกต่างกันและอาจได้รับแรงจูงใจหากบุคคลนั้นมีความคาดหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ความคาดหวังในทฤษฎีความคาดหวัง          ก.มีสหสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างความพยายามกับผลงาน          ข.ผลงานที่พึงปรารถนามาจากรางวัลที่อยากได้          ค.รางวัลจะยังคงสร้างความพึงพอใจในความต้องการที่สำคัญ          ง. ความปรารถนาที่จะสร้างความพึงพอใจในความต้องการมีความเข้มแข็งพอที่จะสร้างคุณค

ทรัพยากรมนุษย์ในยุคใหม่ ตอนที่ 1 โดยแจ๊ค ฟิทส์-เอนซ์ และบาร์บารา เดวิดสัน

                ในยุคศตวรรษใหม่่เริ่มต้นอย่างเห็นชัดเจนว่าหน้าที่ของทรัพยากรมนุษย์กำลังมุ่งหน้าไปสู่ยุคสมัยที่สี่  บางครั้งอาจเป็นครั้งสุดท้ายของวิวัฒนาการ ในทศวรรษท้ายสุดผู้เขียนได้ลงไปปฏิบัติงานกับนักวิชาชีพทรัพยากรมนุษย์จำนวนมากซึ่งไม่ได้มีภาระหมือนกับคนรุ่นเก่าที่วุ่นวายกับเอกสารกองโต  ไม่มีเสียงบ่นเกี่ยวกับการขาดแคลนทรัพยากรหรือไม่ประทับใจ ไม่มีการยอมรับเกี่ยวกับพลเมืองชั้นสองหรือการปลดพนักงานออกจากการวางแผนกลยุทธ์  แน่นอน มิใช่ว่าทุกคนจะชอบก็ตาม และพวกเขาก็เผชิญกับเปอร์เซ็นต์ปรกติของบุคคลที่ยุ่งยากในองค์การ แต่สำหรับคนเก่งแล้ว เป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยสายตายาวไกลก็ยังคงทำงานในเชิงรุกในทุกวันนี้  พวกเขาเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของบริษัท    งานของพวกเขามีผลกระทบอย่างชัดแจ้งในผลงานของบริษัท  สิ่งที่ดีเลิศนั้นเป็นที่ปรากฎพบว่าตัวเลขผลงานของเขาก็เติบโตอยู่ทุกวัน                 อีกด้านหนึ่งของรั้วมีแรงกดดันซึ่งกำลังเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงอยู่ทุกวัน นั่นคือคำพูดที่ว่า "จ้างเหมาบริการ" (outsource) ภายใต้ชื่อของประสิทธิผลเกี่ยวกับต้นทุนว่าการจ้างเหมาบริการแท้ที่จริงแล้วคือต้นทุน

ผลการวิจัยความเชื่อในทุนมนุษย์ในธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง โดยFakhraddinmaroofi and Nazanin M. Jalali

อภิปรายผลและสรุปผลการวิจัย (DISCUSSION AND CONCLUS ION)      ผู้วิจัยได้ระบุว่าความแตกต่างอย่างสำคัญที่เราเชื่อถือได้ในธุรกิจขนาดย่อมที่แตกต่างกันในแง่ขนาด  ซึ่งเป็นทัศนคติที่มีคำอธิบายอย่างสมเหตุสมผล  ในขณะที่ธุรกิจขนาดย่อมเผชิญหน้ากับแรงผลักดันที่มีอุปสงค์ในด้านการตอบสนองต่อลูกค้ามากขึ้นในการปรับตัวในวิธีการดำเนินงานอย่างรวดเร็ว ความแตกต่างนั้นก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ต้องมีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น  อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาที่มีการปรับปรุงพัฒนาเชื่อว่ามีความแตกต่างกันในแง่ขนาดของธุรกิจขนาดย่อม  ในธุรกิจขนาดย่อมที่เล็กมากเท่าใด  กำลังแรงงานของธุรกิจขนาดย่อมจะตกอยู่ภายในช่วงของการควบคุมโดยผู้นำทันที และผู้นำเชื่อว่าจะมีสิ่งเกี่ยวข้องเป็นส่วนบุคคลกับวิธีการดำเนินงานโดยตลอดทั่วทั้งหน่วยงาน   แต่เงื่อนไขแต่อย่างเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อแนวคิดที่ยอมรับการพึ่งพิงทุนมนุษย์ในองค์การบริษัท   ภายต้เงื่อนไขของภาคธุรกิจขนาดเล็ก    แผนงานทุนมนุษย์ควรจะมีกรอบความคิดอย่างสมเหตุสมผลเฉกเช่นการปรับปรุงองค์การขึ้นใหม่    แผนงานนี้ไม่ได้ถูกนำไปใช้เป็นแบบแนวดั้งเดิมโดยธุรกิจขนาดย่อมและผู้จำหน่ายหลายคนไม่ได้เริ่มต้นท