รัฐบาลไทยควรใส่ใจในการสร้างรัฐสวัสดิการ (welfare state)



         การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการ (welfare state) เป็นการส่งเสริมความอยู่ดีกินดีของประชาชน แ่ต่ก็ควรระวังที่จะไม่ส่งเสริมให้ประชาชนขี้เกียจ หรือเกียจคร้านการทำงานโดยเด็ดขาด แต่สามารถช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตทีีดีขึ้น และทำให้ประชาชนไม่อ่อนแอ   ซึ่งความหมายของรัฐสวัสดิการตามความหมายของ Wikipedia คือแนวคิดของรัฐบาลที่ประเทศเป็นผู้แสดงสำคัญในการปกป้อง หรือการส่งเสริมเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพลเมือง โดยขึ้นอยู่กับหลักการความเสมอภาคในโอกาส, มีการกระจายความมั่งคั่งอย่างเสมอภาค และความรับผิดชอบต่อสาธารณะ    ในรัฐสวัสดิการสมัยใหม่ได้แก่ประเทศนอรเวย์ และเดนมาร์ค ซึ่งมีการนำเอาระบบที่มีชื่อเสียงคือตัวแบบนอร์ดิค   รัฐสวัสดิการเกี่ยวข้องกับการโอนย้ายกองทุนโดยตรงจากรัฐไปสู่การจัดสรรบริการได้แก่บริการสุขภาพ, บริการทางการศึกษา ไปสู่ผลประโยชน์ประชาชนโดยตรง รัฐสวัสดิการจัดกองทุนโดยผ่านการจัดเก็บภาษีเพื่อกระจายรายได้ และหมายถึงระบบเศรษฐกิจแบบผสม (mixed economy)
         ในประเทศอังกฤษ รัฐบาลมีการลงทุนขุดสร้างอุโมงค์ลอดใต้ทะเลเพื่อสร้างเครือข่ายการขนส่งไปยังแถบยุโรปหลายประเทศ และมีการเสียค่าผ่านทางหรือค่าขนสินค้า หรือการลงทุนรัฐวิสาหกิจ หรือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงาน และการสร้างรายได้ การที่รัฐบาลลงทุนเพื่อนำผลประโยชน์มาจัดสรรเป็นกองทุนสวัสดิการให้กับประชาชนทำให้ประชาชนไม่มีงานทำ หรือมีรายได้สามารถรับเงินกองทุนเฉลี่ยประมาณ 3 แสนกว่าบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 30,000 กว่าบาท    ทำให้ประชาชนประเทศอังกฤษมีความมั่นคงในการดำรงชีิวิต แต่อาจเกิดปัญหาที่คนไม่มุ่งทำงาน หรือทำตนเป็นคนว่างงาน    ดังนั้นประเทศไทยจัดว่าเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ประเทศหนึ่ง   แต่การจัดสรรหรือการกระจายรายได้ให้กับประชาชนยากจนยังไม่ดีเท่าที่ควร ผลประโยชน์ของชาติส่วนใหญ่กระจุกรายได้ไปอยู่กับนักการเมือง, กลุ่มผลประโยชน์, นายทุน ฯลฯ ทำให้คนไทยประสบปัญหาความยากจน   หากมีการขจัดปัญหาการคอรัปชั่น และนำเงินจากการดูแลไม่ให้เกิดคอรัปชั่นมาจัดสรรผลประโยชน์ในแง่สวัสดิการภาครัฐ, ลดปัญหาการผูกขาดตัดตอน,วงจรอุบาทว์ทางการเมืองที่มีแต่รัฐประหารทำให้ประเทศถอยหลังลง  ความมั่นคงก็กลายเป็นความมั่นคงของคนมีอำนาจ แต่ไม่ใช่ความมั่นคงของประชาชนคนยากจน ประชาชนก็ไม่สามารถพัฒนาชาติบ้านเมืองได้เพราะคนส่วนใหญ่อ่อนกำลัง และหันมาต่อต้านรัฐบาลที่ทำให้คนไทยยากจน เพี่อเรียกร้องระบบอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น    หากเราไม่ต้องการให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้าน   รัฐบาลควรจัดสรรสวัสดิการแต่เนิ่น ๆ โดยรัฐวางแผนลงทุนโครงการที่ทำรายได้อยางรอบคอบ และมีวิสัยทัศน์ที่เหมาะสมกับอนาคต หรือการจัดกองทุนส่งเสริมสหกรณ์ชุมชนเพื่อจัดหาข้าวของราคาถูกให้กับประชาชนเพื่อทำการผลิตสินค้า ส่วนรัฐบาลช่วยหาตลาดเช่น สหกรณ์โอทอป ก็จะทำให้ประเทศไทยมีเม็ดเงินมาให้สวัสดิการกับประชาชนได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ