ประชาชนที่ฉลาดจะสามารถมีความคิดแบบคณิตศาสตร์ทางการเืมือง

ผลงานของนักการเมืองแบบเชิงบูรนาการนั้นควรมองให้รอบด้าน เพราะหากการมองผลงานของนักการเมืองแบบเพียงมิติเดียว โดยไม่สามารถมองนักการเมืองแบบหลายมิติก็จะทำให้นักการเมืองที่เก่งมีประสิทธิภาพในการทำงาน  ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูผลงานของนักการเมือง โดยแยกเรื่องความดีความชั่วกับผลงานที่ปรากฎ หากเราใช้แต่เรื่องความดีความชั่วแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ดูผลงาน ก็เ่ท่ากับเราตัดสินใจของคนอย่างไม่คลอบคลุมถ้วนทั่ว  โดยขอยกตัวอย่างดังนี้
           ผู้นำทางการเมืองแบบพรรค A มองว่าเป็นคนดีมีคุณธรรม สมมติว่าได้คะแนน 10 คะแนน
แต่ปรากฎว่ามีผลงานที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้เพียง 5 คะแนน  แต่ปรากฎว่าบริวารของพรรคการเมืองมีการทุจริตและผู้นำทางการเมืองไม่สามารถแก้ปัญหาได้  ก็เท่ากับว่าผู้นำมีคุณธรรมแต่ไม่สามารถบริหารจัดการให้คนใกล้ชิดลดปัญหาทุจริตคอรัปชั่นได้  ก็จะได้คะแนนเพียง 2 คะแนน ก็เท่ากับคะแนนเต็ม 40 คะแนนก็จะได้คะแนนผลงานเพียง 17 คะแนน และปรากฎว่าผู้นำที่สร้างภาพว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมเต็ม 10 ปรากฎว่าเป็นผู้ที่ได้อำนาจมาอย่างไม่ถูกต้องคะแนนก็จะร่วงลงมาที่ 5 คะแนน ก็จะเหลือคะแนนเพียง 12 คะแนนเท่านั้
           ผู้นำทางการเมืองแบบพรรค B ถูกมองว่าเป็นคนไม่ดีมีคุณธรรม สมมติว่าได้คะแนน 5 คะแนน แต่ปรากฎว่ามีผลงานที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนประเทศชาติได้ 18 คะแนน  แต่ปรากฎว่าผู้นำทางการเมืองมีข้อครหาว่ามีการทุจริต แต่ก็ัทำให้ประเทศชาติมีผลผลิต และมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นได้เพราะมีความสามารถในการบริหารจัดการ แต่สามารถควบคุมบริวารทางการเมืองให้มีทุจริตน้อยลงได้ และเป็นที่ยอมรับของประชาชน ได้คะแนนส่วนนี้ถึง 8 คะแนน เมื่อรวมคะแนนแล้วจะได้ถึง 31 คะแนนจากคะแนนเต็ม 40 คะแนน
           ผู้นำทางการเมืองแบบพรรค C ถูกมองว่าเป็นคนพอใช้ได้ และไม่มีชื่อเสียงเท่ากับพรรค A และพรรค B ปรากฎว่ามีคุณธรรมความดีได้ 8 คะแนน แต่ขาดความสามารถและวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการ หรือพอบริหารได้ จะได้คะแนน 5 คะแนน แต่พอควบคุมการทุจริตให้น้อยลงได้ และเป็นที่ยอมรับของประชาชนในระดับปานกลางจะได้คะแนนส่วนนี้ 3 คะแนนก็จะได้คะแนนเพียง 16 คะแนน
          ดังนั้นโดยสรุป การทำงานที่ไม่มีผลงาน และไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนจะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนได้   ดังนั้นคุณธรรมความดีอาจเป็นความดีเฉพาะตน หรือเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ในภาพรวมผลงานไม่ดีก็ถือว่าล้มเหลว    แต่ผู้นำทางการเมืองที่ถูกโจมตีว่าไม่มีคุณธรรมซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ผลงานเป็นที่ปรากฎเด่นชัดกลับเป็นที่ยอมรับของประชาชน  ซึ่งแสดงว่าผลงานสำคัญกว่าคุณธรรมที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้จริง
          หมายเหตุ: คุณธรรมเฉพาะตนเท่ากับ 10 คะแนน
                         ผลงานในภาพรวม           20 คะแนน
                         การดูแลบริวาร                10 คะแนน
                               คะแนนเต็ม              40 คะแนน