คนจนประเทศนี้ คือผู้หล่อเลี้ยงข้าราชการ และชนชั้นนำทางการเมือง

      ลองคิดดูว่า งบประมาณต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการปกครองประเทศไม่ว่าจะเป็นกระทรวง, ทบวง,กรมหรือผู้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐบาล ล้วนแล้วแต่พึ่งพิงงบประมาณ  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้าราชการ และข้าราชการการเมืองล้วนแล้วแต่ใช้เงินภาษีของราษฎร   ถึงแม้ว่าภาคธุรกิจเอกชนจะเสียภาษีมากก็จริง แต่ภาคธุรกิจก็ร่ำรวยจากคนจนผู้ใช้แรงงาน ข้าราชการทหาร, พลเรือนและนักการเมืองก็กินภาษีจากประชาชน   ดังนั้นเนื่องจากคนจนหรือประชาชนเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ  การไม่เคารพเสียงประชาชน โดยอาศัยการตัดสินใจจากคนบางกลุ่มซึ่งมีบุคคลเพียงไม่กี่คนมาใช้อำนาจแทนประชาชนหลายล้านคน เมื่อพิจารณาแล้วดูไม่เหมาะสมและไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง อย่างเช่นการล้มอำนาจโดยวิธีการยุบพรรคการเมือง  ก็เกิดจากกลุ่มรัฐประหารจากข้าราชการทหารโดยไม่ฟังเสียงราษฎรส่วนใหญ่ ท้ายที่สุด ก็จะถูกโดดเดี่ยวจากสังคม และเป็นที่รังเกียจของสังคม  ซึ่งหากไม่มีการปรับตัวในการยอมรับว่าประชาชนคือผู้ที่มีบุญคุณต่อผู้มีบทบาททางการเมือง หรือข้าราชการ  การรับใช้ประชาชนไทยไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ แต่เป็นเรื่องเกียรติยศ,ศักดิ์ศรี   เราไม่ควรลืมบุญคุณประชาชน  ไม่ว่าเสื้อสีใหนก็คนไทยเหมือนกัน  และเราจะพบว่ารัฐบาลที่เพิ่งผ่านไปก็ไม่สามารถทำผลงานเป็นที่พอใจของประชาชน   หากเราไม่เคารพสิทธิ, แต่การไปยึดสิทธิโดยไม่ฟังเสียงส่วนใหญ่   นั่นย่อมเป็นเรื่องอันตราย  ดังนั้นอย่าได้ลืมบุญคุณประชาชนที่ทำให้เราได้มีอำนาจวาสนา จนเรามองข้ามประชาชนไป

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ