ร่วมกันเป็นหูเป็นตาเพื่อจับโกงการเลือกตั้ง

       การโกงเลือกตั้งเป็นเรื่องของการพยายามเอาชนะคะคานที่คนกลุ่มหนึ่งพยายามเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้บุคคลที่ทำหน้าที่อาจไม่เป็นกลาง หรือเอนเอียงเข้าข้างซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อการโกงการเลือกตั้ง  ตั้งแต่การพิมพ์บัตรเลือกตั้ง, การจัดคูหาเลือกตั้ง, การตั้งกรรมการ กกต., การจัดเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง    การโกงกันมักเกิดขึ้นโดยทั่วไปซึ่งทำให้การล๊อบบี้เพื่อการโกงอาจเกิดขึ้นได้ในทุกกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งควรมีองค์กรตรวจสอบโดยภาคประชาชนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทั้งกระบวนการ เพราะการที่สังคมเน้นผลประโยชน์ทำให้คนเรามีกิเลสในการเอาชนะคะคานไปในทางที่ไม่ดี และบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมกันกับนักการเมือง หรือเชียร์ข้างพรรคใดพรรคหนึ่ง ทำให้กระบวนการเลือกตั้งอาจมีปัญหา และเป็นที่สงสัยต่อประชาชน  ซึ่งควรมีขั้นตอนการทำโมเดลในการตรวจสอบ ดังนี้
                - ตรวจสอบบัตรเลือกตั้งถูกต้องหรือไม่ มีการทำบัตรเลือกตั้งให้ความได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่
               -  การแต่งตั้งกรรมการดูแลการเลือกตั้งนั้นเป็นกลางหรือไม่ มีบุคคลเข้าข่ายเป็นที่สงสัยหรือไม่
               - การจัดคูหาการเลือกตั้งมีการจัดวางระบบที่รัดกุม มีช่องโหว่หรือไม่ สร้างความสับสนแก่ผู้มาเลือกตั้งหรือไม่
               - การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์นั้น ได้มีการประกาศแจ้งล่วงหน้าไปยังที่อยู่ตามบ้านหรือไม่หรือหากรายชื่อตกหล่นนั้นควรรีบแก้ไข เพราะหากเลือกตั้งแล้วคนนั้นไม่มีรายชื่อถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นการลิดรอนสิทธิประชาชน
               - มีการจัดเก็บบัตรเลือกตั้ง บัตรสำรอง โดยให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้น ๆ มีโอกาสตรวจสอบหรือลงลายมือชื่อรับรอง เช่นในเขตหนึ่ง ๆ ควรมีตัวแทนประจำเขตไม่ต่ำกว่า 10 คน
ในการรับรองผล หรือการขนส่งกล่องเลือกตั้งไปรวมที่หน่วยเลือกตั้งเพื่อมานับคะแนนเสียง
              - ที่สำคัญมากว่ากรรมการ กกต.มาจากการเลือกตั้งหรือมาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารหรือไม่ เพราะหากแต่งตั้งผิดไปแล้ว ความเป็นกลางของ กกต.ย่อมไม่น่าวางใจ
              - และยิ่งกว่าสำคัญคือการตื่นตัวของประชาชนไทยนั่นเอง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)