10 วิธีในการเป็นเศรษฐีของ Warren Buffet
1. ลงทุนสร้างกำไร เมื่อคุณจะหาเงิน, คุณคิดลงทุนโดยการใช้จ่าย วอเร็น บุฟเฟ่ต์ได้เรียนรู้สิ่งนี้ตั้งแต่ต้น ในการเรียนระดับอุดมศึกษา เขากับเพื่อนได้ซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในห้องเสริมสวย ด้วยเงินที่แสวงหามาได้ เขาได้ซื้อเพิ่มขึ้นจนมีขยายไปยังร้านเสริมสวยอีก 8 แห่ง เมื่อเพื่อนเขาขายหุ้นออกไป วอเร็น บุฟเฟต์ได้ใช้เงินซื้อหุ้นและเริ่มต้นด้วยธุรกิจเล็ก ๆ ด้วยอายุเพียง 26 ปีเขาหาเงินได้ถึง 174,000 เหรียญ เมื่อเทียบกับเงินปัจจุบันคือ 1.4 ล้านเหรียญ ด้วยเงินเพียงเล็กน้อยสามารถเปลี่ยนเป็นความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ได้
2.ตั้งใจที่จะทำอะไรให้แตกต่าง อย่าตัดสินใจทำอะไรที่ทุกคนกำลังกล่าวถึง หรือกำลังทำอยู่ เมื่อวอเร็น บัฟเฟ่ต์ เริ่มจัดการกับเงินในปี ค.ศ.1956 ด้วยเงินเพียง 100.000 เหรียญสหรัฐโดยร่วมลงทุนกับนักลงทุนกลุ่มหนึ่ง เขาได้รับฉายานามว่าเป็นลูกกอล์ฟ เขาได้ปฏิบัติงานในโอมาฮาไม่ใช่วอลสตรีท และเขาปฏิเสธที่จะบอกครอบครัวของเขาว่าเขานำเงินไปใช้ที่ใหน คนส่วนมากคาดคะเนว่าเขาคงล้มเหลว แต่เมื่อเขาเลิกการเป็นหุ้นส่วนในเวลา 14 ปีต่อมา เงินลงทุนของเขามีค่ามากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เขาแสวงหาการลงทุนที่มีมูลค่าต่ำและหยุดการลงทุนภายใน 1 ปี สำหรับวอเร็น บัฟเฟ่ต์ค่าเฉลี่ยเพียงแต่เป็นสิ่งทุกคนกำลังทำอยู่ สำหรับการลงทุนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ท่านจำเป็นต้องวัดผลด้วยตัวท่านเองในสิ่งที่เรียกว่าการให้คะแนนในใจ โดยพิจารณาตนเองโดยมาตรฐานของตนเองไม่ใช่มาตรฐานของโลก
3. ไม่อมพะนำ การให้ข้อมูลข่าวสารล่วงหน้าใด ๆ คุณจำเป็นต้องทำการตัดสินใจ และถามเพื่อนหรือญาติพี่น้องเพื่อความมั่นใจว่าคุณยึดกับการขีดเส้นตาย วอเร็น บัฟเฟต์ภูมิใจกับตัวเขาเองในการตกลงใจทันทีทันใดและลงมือทำทันที โดยไม่มานั่งคิดแบบอมหัวแม่มือโดยไม่จำเป็น “เมื่อมีคนเสนอธุรกิจหรือการลงทุนใด ๆ ก็ตาม เขาจะพูดว่า “ผมจะไม่คุยด้วย หากพวกเขายังไม่เสนอราคากับผม”
4. แจกแจงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องก่อนเริ่มต้น ระดับการต่อรองของคุณมักจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ก่อนที่จะเริ่มงาน นั่นก็คือเมื่อคุณมีข้อเสนอที่คนอีกฝ่ายหนึ่งต้องการ วอเร็น บัฟเฟต์เรียนรู้บทเรียนที่ได้เป็นเรื่องยากเหมือนลูกแหง่ เมื่อพ่อตาของเขาชื่อเออร์เน็ส ได้ว่าจ้างเขาและเพื่อนคนหนึ่งให้ช่วยกันขุดหิมะที่ปกคลุมร้านขายของชำ เจ้าหมอนั่นใช้เวลา 5 ชั่วโมงในการใช้พลั่วแซะด้วยมือเปล่าทำให้มือแข็งด้วยความเย็นจัด ต่อมาพ่อตาของเขาให้ถุงมือที่ราคาไม่ถึง 90 เซ็นต์เพื่อไม่ให้หิมะเกาะติด วอเร็น บัฟเฟ่ต์มีความหวาดกลัวว่าเขาทำงานจนหลังแทบหักเพียงหารายได้ 1 เพ็นนีต่อชั่วโมง ซึ่งบ่อยครั้งที่ต้องระบุค่าจ้างล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติของเขา
5. เผ้ามองการลงทุนแต่น้อย วอเร็น บัฟเฟ่ต์ลงทุนธุรกิจกับผู้จัดการที่ครอบงำด้วยต้นทุนที่น้อยที่สุด เขาได้งานจากบริษัทที่เจ้าของบริษัทให้นับกระดาษม้วนในห้องน้ำทั้งหมด 500 ม้วนเพื่อไม่ให้โดนโกง เขาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนหนึ่งที่ท่าสีอีกด้านหนึ่งอยู่ข้างสำนักงานที่มองเห็นได้จากอีกฝั่งถนน การฝึกเฝ้าระแวดระวังในค่าใช้จ่ายทุก ๆอย่างสามารถทำกำไรให้คุณได้ และทำให้ผลตอบแทนเป็นเงินมีมากขึ้น
6. จำกัดการกู้ยืม การมีชีวิตทีใช้บัตรเครดิตและการกู้ยืมไม่ได้ทำให้คุณร่ำรวย วอเร็น บัฟเฟต์ไม่เคยยืมเงินสักครั้งเดียว ไม่นำเงินกู้มาลงทุน ไม่จำนอง เขาลืมจดหมายที่สกิดใจจากคนที่คิดจะกำลังกู้ยืมในการจัดการ โดยคิดแต่จะมีหนี้สิน คำแนะนำของเขาคือจงต่อรองกับผู้ให้สินเชื่อที่จะจ่ายเท่าที่คุณทำได้ แล้วคุณจะปลอดหนี้ การทำงานที่มีการประหยัดเงินสามารถทำให้คุณนำเงินไปลงทุนได้
7. ยืนหยัดไม่ลดละ ด้วยการยึดถือและฉลาด คุณสามารถเอาชัยชนะคู่แข่งได้มาก วอเร็น บัฟเฟต์ต้องการซื้อเครื่องใช้สำนักงานจากเนบราสก้าในปี ค.ศ. 1983 เพราะว่าเขาชอบวิธีการของผู้ก่อตั้งที่ชื่อ โรส บลูมคิน เป็นผู้สร้างธุรกิจ เป็นผู้ลี้ภัยชาวรัสเซีย หล่อนสร้างร้านค้าจากโรงรับจำนำไปเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ กลยุทธ์ของหล่อนคือขายจำนวนมากในราคาต่ำ และหล่อนเป็นนักเจรจาต่อรองที่โหดเหี้ยม สำหรับวอเร็น บัฟเฟต์ โรสแสดงออกมาในรูปความกล้าหาญที่ไม่ย่อหย่อนที่จะเป็นผู้ชนะจากการยอมเสียเปรียบ
8. จงเรียนรู้ที่จะหยุด ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อวอเร็น บัฟเฟต์เป็นวัยรุ่น เขาเดินไปที่ลู่แข่ง เขาพนันการแข่งม้าและเขาเสียเงิน เขาหาเงินมาเล่นใหม่ เขาพนันการแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง ก็เสียเงินอีก เขาเลิกจากการแข่งขัน และทำให้เขาเจ็บปวด เขาได้ใช้เงินให้หมดไปจากการหาเงินถึง 1 สัปดาห์ วอเร็น บัฟเฟต์ไม่เคยทำผิดซ้ำสอง และรู้ว่าเมื่อเดินห่างออกจากที่ขาดทุน และไม่วิตกกังวลโดยหมกมุ่นกับการพยายามอีกครั้งเลย
9. ประเมินความเสี่ยง ในปี ค.ศ.1995 นายจ้างลูกชายวอเร็น บัฟเฟต์ ชื่อโฮวี่ ได้คัดค้านการกำหนดราคาค่าจ้างคงที่ของหน่วยงานเอฟบีไอ เขาแนะนำโฮวี่ให้มีจินตภาพดูทิศทางแนวโน้มกรณีที่เลวร้ายที่สุด หากเขายังอยู่บริษัท ลูกชาย เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าความเสี่ยงในการอยู่กับบริษัทต่อไปเป็นการถ่วงศักยภาพ และเขาได้ลาออกในสัปดาห์ต่อมา จงถามตัวคุณเองว่า และจะมีอะไรเกิดขึ้นที่สามารถช่วยคุณให้เห็นลำดับความสำคัญที่เป็นไปได้เมื่อคุณกำลังดิ้นร้นในการตัดสินใจเพื่อนำพาคุณไปสู่โอกาสเลือกที่ดีกว่า
10. รู้หนทางสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง ด้วยความมั่งคั่งของเขา วอเร็น บัฟเฟต์ไม่เคยวัดความสำเร็จที่เป็นตัวเงิน ในปี ค.ศ.2006 เขาชื่นชมกับอนาคตทั้งหมดในการบริจาค โดยร่วมกับมูลนิธิบิลเกต และเมลินดา เกต เขาไม่ได้นำเงินเพื่อสร้างอนุสาวรีย์ให้กับตัวเขาเอง เขาไม่มีสิ่งก่อสร้างหรือหอประชุมใหญ่ เขากล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้ว่าบุคคลที่มีเงินมาก และเขาต้องการได้เหรียญตราจากการช่วยเหลือในงานดินเนอร์และการบริจาคตามโรงพยาบาล แต่ความจริงก็คือว่ามีใครในโลกรักพวกเขา เมื่อคุณอยู่ในวัยเดียวกับข้าพเจ้า คุณจะวัดความสำเร็จในชีวิตจากคนส่วนมากที่ต้องการให้รักคุณอย่างแท้จริง นั่นคือสิ่งที่ทดสอบสูงสุดของการดำรงชีวิตของคุณนั่นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น