หลักการ 11 ข้อที่นำไปสู่ความเป็นเศรษฐีของบิลเกตส์
บิลเกตส์ผู้สร้างตนเป็นเศรษฐีเริ่มต้นจากการสร้างไมโครซอฟท์ตั้งแต่เขาอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น เขาเป็นเศรษฐีพันล้านเหรียญที่หนุ่มที่สุดด้วยวัยเพียง 30 ปี และเมื่ออายุ 39 ปี ความร่ำรวยของเขาก็มาเทียบชั้นกับวอเร็น บัฟเฟต์ (นักลงทุนหุ้นที่รวยที่สุด) เขากลับเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก บิลเกตส์เป็นคนธรรมดาเช่นเดียวกับทุก ๆ คน อย่างไรก็ตามเขาใช้ความเก่งกาจและการมุ่งทำงานหนัก เขาค้นพบว่าไมโครซอฟฟ์เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างความมั่งคั่ง, อำนาจและความมีเครดิต ดังนั้นสิ่งที่คุณมองเห็น คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมีเวลาที่ผ่านความยากลำบาก คุณคิดใหมว่าบิลเกตส์ไม่เคยต่อสู้กับอาชีพของเขาใช่ใหม? คุณคิดใช่ใหมว่าเขาเกิดมาโชคดีและเป็นคนเก่ง? ไม่ใช่แน่นอน แต่เขาเรียนรู้โดยผ่านเวลาที่ทำงานหนัก และสามารถแก้ปัญหาได้ คุณรู้ว่าอะไร หากเขาทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกัน จากหลักการ 11 ข้อดังนี้
1. จงปรับชีวิตของคุณ คุณต้องยอมรับว่าชีวิตนั้นไม่ยุติธรรม ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบหรือโชคดี, คุณต้องเรียนรู้ในการปรับตัวเข้ากับชีวิตของคุณ แล้วจงเปลี่ยนแปลงมัน ทำอย่างไรการดำรงชีวิตของคุณจะดำเนินไปด้วยวิถีทางของคุณ คุณต้องจัดการและลงมือทำด้วยชีวิตของคุณเอง
2. นำชีวิตไปสู่ความสำเร็จ โลกใบนี้ไม่แคร์ว่าคุณเป็นใคร คุณต้องทำเพื่อความสำเร็จเพียงแต่คุณสามารถยืนหยัดในชีวิตด้วยลำแข้งของคุณ ความสำเร็จคือสภาวะชีวิตที่สูงสุด มันสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และทัศนคติ และแม้กระทั่งการยกย่องตนเอง ถ้าคุณคิดว่าความสำเร็จไม่ใช่เป็นคุณ แล้วก็ถือว่าเป็นความคิดที่น่าละอายสิ้นดี
3. ไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีผลสำเร็จ ความสำเร็จไม่เคยได้มาโดยอัตโนมัติ คุณจำเป็นต้องลงแรงหากเป็นความปรารถนาของคุณ นี้คือหลักการพื้นฐานในชีวิตของคุณ คุณไม่ได้เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหากคุณไม่สามารถทำงานนั้นได้ คุณไม่สามารถหาเงินได้ถึง 100,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือนหากคุณไม่ใช้ความพยายามหามา ดังนั้นหยุดความคิดที่ว่าความสำเร็จลอยมาจากสวรรค์ โดยปราศจากทำงานหนักแล้ว ความสำเร็จจะไม่ใช่เป็นของคุณ
4. การเปลี่ยนแปลงทัศนคติของคุณ หากคุณคิดว่าครูของคุณในโรงเรียนเคร่งครัด, คิดว่านายของคุณหลังจากคุณได้เข้าไปทำงาน หยุดการบ่นคนอื่น และเปลี่ยนแปลงทัศนคติถึงวิธีทีคุณมองสิ่งต่าง ๆ
5. เรื่องราวทุกอย่าง ไม่วาเรื่องธุรกิจเล็กหรือใหญ่ พวกเขาสามารถทำเงินได้ ธุรกิจเล็กเติบโตเป็นธุรกิจใหญ่ ดังนั้นจากการก้าวไปทีละเล็กละน้อยทุก ๆวัน คุณก็สามารถบรรลผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สักวันหนึ่ง
6. เรียนรู้ข้อผิดพลาด เป็นสิ่งที่บิลเกตส์แนะนำ เราจำเป็นต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาด ทุกคนมีโอกาสผิดพลาด ไม่มีใครสมบูรณ์แบบในโลกนี้ หากคุณเคยผิดพลาด แล้วเรียนรู้จากมัน และไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีกครั้ง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถปรับปรุงตนเองไปสู่ความสำเร็จที่สูงกว่า
7. ลงมือทำด้วยตนเอง ในโลกนี้คุณมีสิ่งที่ต้องทำด้วยตัวของคุณเอง หยุดพึ่งพาคนอื่น หากคุณยังพึ่งพาคนอื่น คุณจะไม่สามารถเรียนรู้ถึงกระบวนการ ยิ่งคุณพึ่งคนอื่นเท่าใด คุณก็จะสูญเสียความเป็นตัวของคุณเอง และเมื่อคุณจะปกป้องการพึ่งพาคนอื่น ความสำเร็จก็เป็นของคุณ ไม่ใช่ของผู้อื่น
8. คุณมีโอกาสครั้งเดียว สิ่งต่าง ๆ ส่วนมากในชีวิตของเราเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ดังนั้นคุณต้องใช้โอกาส และซาบซึ้งกับมัน บางครั้งหากคุณสูญเสียโอกาสแล้ว อย่าได้กังวลในสิ่งที่คุณสร้างโอกาสขึ้นมา
9. จงสร้างคุณค่าในตัวคุณ คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปี ความจริงเราไม่มีเวลามาก ชีวิตคนเราสั้นมาก คุณต้องเรียนรู้คุณค่าของเวลา จงใช้เวลาของคุณไปสู่กระบวนการที่ทำให้คุณเติบโต, ทำให้คุณประสบความสำเร็จ เพียงแต่จำไว้ว่าอย่าได้ผลัดวันประกันพรุ่ง
10. ทำในสิ่งที่คุณคาดว่าจะทำ สิ่งที่คุณดูทีวีในทุกวันนี้ไม่ใช่โลกที่แท้จริง ในโลกที่แท้จริงคุณจำเป็นต้องออกไปทำงานให้เกิดผลงานออกมา
11. จงทำดีกับทุกคนที่ล้อมรอบคุณ นี้คือกฎทองคำของชีวิตในการทำดีกับทุกคน ทุกคนก็จะทำดีกับคุณ ดังนั้นหากคุณต้องการความร่ำรวย จงทำให้คนอื่นรวยก่อน กฎทองคำแห่งชีวิตไม่เคยเปลี่ยน และคุณต้องปฏิบัติตามกฎนี้เพื่อความสำเร็จ
จะเห้นว่าความร่ำรวยของบิลเกตส์เิกิดจากหยาดเหงื่อแรงงานของเขาเองทั้งสิ้น เขาเป็นคนร่ำรวยจากฝึมือในการทำงาน แต่เขาไม่ได้รวยจากสิ่งที่ไม่ได้สร้างสรรค์ จึงปรารถนาให้คนไทยนำมาเป็นแบบอย่างเพื่อส่งเสริมคนไทยร่ำรวยจากสิ่งที่สุจริต,สร้างสรรค์ และแบ่งปันแก่ผู้ยากไร้ เขาจึงเป็นมหาเศรษฐีที่น่ายกย่องคนหนึ่งของโลก จากการที่เขานำเงินมาบริจาคช่วยเหลือคนทั้งโลกปีละเกือนแสนล้าน ซึ่งเขาเอาเยี่ยงอย่างเศรษฐีที่ชื่อว่า วอเร็น บัฟเฟต์ที่สอนให้เป็นคนรวยที่มีน้ำใจประเสริฐ ซึ่งคนไทยควรเอาเยี่ยงอย่าง
จะเห้นว่าความร่ำรวยของบิลเกตส์เิกิดจากหยาดเหงื่อแรงงานของเขาเองทั้งสิ้น เขาเป็นคนร่ำรวยจากฝึมือในการทำงาน แต่เขาไม่ได้รวยจากสิ่งที่ไม่ได้สร้างสรรค์ จึงปรารถนาให้คนไทยนำมาเป็นแบบอย่างเพื่อส่งเสริมคนไทยร่ำรวยจากสิ่งที่สุจริต,สร้างสรรค์ และแบ่งปันแก่ผู้ยากไร้ เขาจึงเป็นมหาเศรษฐีที่น่ายกย่องคนหนึ่งของโลก จากการที่เขานำเงินมาบริจาคช่วยเหลือคนทั้งโลกปีละเกือนแสนล้าน ซึ่งเขาเอาเยี่ยงอย่างเศรษฐีที่ชื่อว่า วอเร็น บัฟเฟต์ที่สอนให้เป็นคนรวยที่มีน้ำใจประเสริฐ ซึ่งคนไทยควรเอาเยี่ยงอย่าง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น