อัจฉริยะประชาธิปไตยของผู้นำเกิดจากจิตสำนึกที่เป็นธรรมชาติ
อัจฉริยะประชาธิปไตย หมายถึงความฉลาดทางปัญญาในแง่ของความรู้ความเข้าใจประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ผู้ทีไม่มีจิตใจประชาธิปไตยจะแสดงออกในลักษณะของการขาดจิตสำนึก หรือจิตวิญญานประชาธิปไตย เช่นลักษณะผู้ขาดจิตวิญญานประชาธิปไตยจะมีลักษณะดังนี้
1.มีทัศนะดูถูกดูแคลนประชาชนว่ามีการศึกษาน้อย หรือไม่เข้าใจประชาธิปไตย ซึ่งทัศนะเช่นนี้ผู้ปกครองควรส่งเสริม และสร้างสรรค์ให้เกิดจิตสำนึกประชาธิปไตย เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ การดูถูกดูแคลนก็เท่ากับว่าเมื่อตนเองมีหน้าที่หรือบทบาทในสังคมประชาธิปไตย แต่กลับไม่สนใจในการส่งเสริมประชาธิปไตยให้แก่ประชาชน
2.ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง ทำตามคำสั่ง หรือถูกสั่งจากผู้มีอำนาจเหนือกว่า แทนที่จะเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศ กลับใช้อำนาจเป็นไปตามกลุ่มบุคคลหรือเอาใจกลุ่มบุคคลเพียงบางกลุ่ม
3.ทำงานการเมืองแบบเล่นการเมืองแบบสกปรก คือคอยยุแยงตะแคงรั่ว, กลั่นแกล้งทางการเมืองเพื่อให้ผู้อื่นตกจากอำนาจ แต่ไม่ยอมพัฒนาตัวเองให้มีความสามารถ มุ่งเข้าสู่ฐานอำนาจโดยวิธีไม่สะอาด และเกรงกลัวผู้ที่มีคะแนนเสียงมากกว่า
4.มีลักษณะการพูดที่ดูว่าเก่ง แต่เวลาปฏิบัติกลับไม่เป็นนักประชาธิปไตย หรือขาด I.Q ประชาธิปไตย มองคนไม่เสมอภาค, ใครคัดค้านก็มองว่าเป็นอริหรือศัตรูแทนจะมองว่าเป็นเพียงแตกต่างทางความคิด เข้าทำนองว่า "ปากประชาธิปไตย แต่ใจเผด็จการ" หรือลักษณะทำนอง "ปากปราศรัยแต่น้ำใจเชือดคอ"
5.ส่งเสริมหรือคบค้าสมาคมกับนักเผด็จการ หรือผู้ไม่นิยมประชาธิปไตย มองประชาธิปไตยเป็นเรื่องแสลงหู แต่มองประชาธิปไตยแบบเข้าข้างตนเอง คือตัวเองเป็นใหญ่ต้องฟังตัวเอง แต่ตนเองไม่จำเป็นต้องฟังใคร เพราะถือว่ามีฐานะดีกว่าผู้อื่น หรือดีกว่าประชาชน มองไม่เห็นความสำคัญหรือเห็นหัวประชาชน
6. การปฏิบัติงานเป็นลักษณะไ่ม่โปร่งใส, อาศัยพรรคพวก หรือพวกมากลากไป บางครั้งก็ลากเข้ารกเข้าพงก็มองว่าเป็นสิ่งดี ขาดวิจารณญานว่าสิ่งใดควรทำ หรือสิ่งใดไม่ควรทำ
ปัญหาอัจฉริยะประชาธิปไตยในแง่ผู้นำ จะมีลักษณะดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
1.มีทัศนะดูถูกดูแคลนประชาชนว่ามีการศึกษาน้อย หรือไม่เข้าใจประชาธิปไตย ซึ่งทัศนะเช่นนี้ผู้ปกครองควรส่งเสริม และสร้างสรรค์ให้เกิดจิตสำนึกประชาธิปไตย เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ การดูถูกดูแคลนก็เท่ากับว่าเมื่อตนเองมีหน้าที่หรือบทบาทในสังคมประชาธิปไตย แต่กลับไม่สนใจในการส่งเสริมประชาธิปไตยให้แก่ประชาชน
2.ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง ทำตามคำสั่ง หรือถูกสั่งจากผู้มีอำนาจเหนือกว่า แทนที่จะเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งประเทศ กลับใช้อำนาจเป็นไปตามกลุ่มบุคคลหรือเอาใจกลุ่มบุคคลเพียงบางกลุ่ม
3.ทำงานการเมืองแบบเล่นการเมืองแบบสกปรก คือคอยยุแยงตะแคงรั่ว, กลั่นแกล้งทางการเมืองเพื่อให้ผู้อื่นตกจากอำนาจ แต่ไม่ยอมพัฒนาตัวเองให้มีความสามารถ มุ่งเข้าสู่ฐานอำนาจโดยวิธีไม่สะอาด และเกรงกลัวผู้ที่มีคะแนนเสียงมากกว่า
4.มีลักษณะการพูดที่ดูว่าเก่ง แต่เวลาปฏิบัติกลับไม่เป็นนักประชาธิปไตย หรือขาด I.Q ประชาธิปไตย มองคนไม่เสมอภาค, ใครคัดค้านก็มองว่าเป็นอริหรือศัตรูแทนจะมองว่าเป็นเพียงแตกต่างทางความคิด เข้าทำนองว่า "ปากประชาธิปไตย แต่ใจเผด็จการ" หรือลักษณะทำนอง "ปากปราศรัยแต่น้ำใจเชือดคอ"
5.ส่งเสริมหรือคบค้าสมาคมกับนักเผด็จการ หรือผู้ไม่นิยมประชาธิปไตย มองประชาธิปไตยเป็นเรื่องแสลงหู แต่มองประชาธิปไตยแบบเข้าข้างตนเอง คือตัวเองเป็นใหญ่ต้องฟังตัวเอง แต่ตนเองไม่จำเป็นต้องฟังใคร เพราะถือว่ามีฐานะดีกว่าผู้อื่น หรือดีกว่าประชาชน มองไม่เห็นความสำคัญหรือเห็นหัวประชาชน
6. การปฏิบัติงานเป็นลักษณะไ่ม่โปร่งใส, อาศัยพรรคพวก หรือพวกมากลากไป บางครั้งก็ลากเข้ารกเข้าพงก็มองว่าเป็นสิ่งดี ขาดวิจารณญานว่าสิ่งใดควรทำ หรือสิ่งใดไม่ควรทำ
ปัญหาอัจฉริยะประชาธิปไตยในแง่ผู้นำ จะมีลักษณะดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น