ทิศทางนโยบายของพรรคการเมืองในการหาเสียงเลือกตั้ง

การหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่หากพิจารณาจากนโยบายของการหาเสียงจะพบว่าพรรคการเมืองได้แก่พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนโยบายของแต่ละพรรคจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน มีแตกต่างกันในรายละเอียด   ส่วนพรรคระดับกลางก็พยายามสร้างสีสันว่าหากต้องการให้ประเทศปรองดองควรเลือกพรรคขนาดกลาง ส่วนพรรคเล็กเพิ่งเกิดใหม่ได้แก่พรรครักษ์สันติ, พรรคชูวิทย์ ฯลฯ ก็ได้รับความนิยมของประชาชนพอสมควร  แต่กระแสการเมืองขณะนี้เป็นกระแสของการเลือกพรรคใหญ่ และนโยบายที่คล้ายกันคือนโยบายประชานิยม (Populism) ซึ่งเกือบทุกพรรคไ่ม่ว่าพรรคใหญ่และพรรคระดับกลางต่างก็ชูนโยบายลดแลกแจกแถมเพื่อประชาชน  ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี    ปัญหาก็อยู่ที่ว่าพรรคใดใครจะทำได้จริง และวิธีการไปสู่เป้าหมายดีกว่ากัน ซึ่งเป็นเรื่องของกลยุทธ์และแนวทางในการทำงานให้สำเร็จเพื่อประเทศชาติ และประชาชน เป็นยุคใหม่มิติใหม่ที่การหาเสียงเลือกตั้งสนุกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะสังเกตว่าการหาเสียงเกือบทุกพรรคมีการเดินวิบากหาเสียงอย่างเหนื่อยยากแต่คุ้มค่าราคาเหนื่อย เพราะสังเกตว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยพอสมควร  มีพรรคชูวิทย์เท่านั้นที่ดูเหมือนจะแสดงใบหน้าเคร่งขรึมมีท่าทีจริงจังต่อการเป็นฝ่ายค้านเพื่อให้การเมืองไทยไปสู่ประโยชน์ต่อประชาชน   หากการเลือกตั้งครั้งนี้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมให้มากที่สุดก็นับว่าเป็นปรากฎการณ์ที่ประชาธิปไตยของไทยบัดนี้ได้เบ่งบานสุดขีดแล้วนั่นเอง  นอกจากนี้ยังมีชาวต่างประเทศในแถบ EU และอเมริกาได้มาช่วยเฝ้ามองการเลือกตั้งของไทย    ซึ่งแสดงว่าผลสะเทือนของประเทศไทยส่งผลไปทั่วโลกอย่างไม่เคยมีมา่ก่อน   และต่างชาติเฝ้ามองการเมืองไทยชนิดใจจดใจจ่อ  เป็นความตื่นตัวที่น่ายินดี และน่าสุขใจทีเดียว เพราะเป็นต่อสู้ทางการเมืองที่ดุเด็ดเผ็ดมัน เหมือนการเตะฟุตบอลล์คู่ชิงแชมป์เลยทีเดียว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ