การลอบสังหารหัวคะแนนทางการเมืองสะท้อนถึงความฟอนเฟะระบบการเมือง

       การเมืองควรเป็นเรื่องสร้างสรรค์ ไม่ควรใช้ความรุนแรงไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม  เพราะการลอบสังหารนักการเมืองระดับท้องถิ่น หรือนักการเมืองระดับชาติไม่ใช่เรื่องดีต่อประเทศชาติ   ดังนั้นมือปืนทั้งหลายไม่ควรกระทำเพราะนอกจากจะเป็นการลอบทำร้ายอย่างไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว ยังทำให้ประเทศเสียหายมากมายต่อสายตาชาวโลก  เพราะนานาชาติจะมองว่าเมืองไทยยังเป็นสังคมที่ป่าเถื่อน บุคคลในชาติตัดสินใจโดยใช้กำลัง ซึ่งอาจจะมาจากการจ้างวาน ซึ่งผู้กระทำเช่นนี้ไม่ทำให้บ้านเมืองเกิดการสร้างสรรค์แต่ประการใด นอกจากกฎแห่งกรรมแล้ว ยังเป้นการบ่อนทำลายบ้านเมืองเป็นซ้ำสอง  ซึ่งเรื่องนี้อยากให้รัฐบาลใด ๆ ก็ตามตื่นตัวต่อเรื่องนี้ และหาวิธีแก้สาเหตุของการใช้ความรุนแรง เช่นมีการขึ้นบัญชีมือปืนรับจ้าง และเปิดโอกาสให้มือปืนเหล่านี้กลับใจ และร่วมมือกับภาครัฐ โดยหาอาชีพที่สุจริตที่มีรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัว   เพราะหากรัฐบาลไม่แก้ปัญหาเรื่องนี้ระดับความรุนแรงเหล่านี้ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้    นอกจากนี้ควรมีนโยบายห้ามพกอาวุธในความครอบครองออกนอกสถานที่ หรือห้ามมิให้พกใบอนุญาตปืน โดยใช้กฎหมายเหมือนประเทศมาเลเซีย   ก็จะทำให้ระดับความรุนแรงเหล่านี้น้อยลง  หรือการสร้างสังคมที่เป็นรัฐสวัสดิการทั่วประเทศโดยการลงทุนภาครัฐเพื่อสวัสดิการประชาชนจากการกระจายรายได้ที่มาจากทรัพยากรของชาติโดยเฉลี่ยความสุขจากผู้ที่มีฐานะดีกว่ามาช่วยผู้มีฐานะด้อยกว่า และลดการแบ่งชนชั้นให้น้อยลงเท่าที่จะทำได้