ความแตกต่างระหว่างนักเผด็จการกับนักประชาธิปไตย

     ความเป็นนักเผด็จการมีทั้งด้านดี และด้านไม่ดี  ด้านดีของนักเผด็จการนั้นหากเป็นการเผด็จการที่ดีก็จะทำให้เกิดประโยชน์ส่วนรวมได้ดี เช่นเผด็จการแบบลัทธิคอมมิวนิสต์เป็นเผด็จการคนส่วนใหญ่ของประเทศที่กระทำต่อคนส่วนน้อยที่เป็นผู้ได้เปรียบในสังคม เช่นนายทุน,ขุนนาง,ขุนศึกที่เอาเปรียบสังคมของคนส่วนใหญ่ทำให้ประชาชนยากไร้ และไม่มีโอกาสทางสังคม เป็นการกดขี่มนุษย์เพื่อความได้เปรียบของคนกลุ่มน้อย  แต่หากเผด็จการเป็นคนมีอุดมการณ์ทำเพื่อสังคมส่วนรวมก็จะทำให้มีการปรับเปลี่ยนประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ดี หากมีวิสัยทัศน์และมีความตั้งใจจริง
     ความเป็นนักประชาธิปไตยมีทั้งด้านดี และด้านไม่ดี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นระบบการเมืองที่เลวน้อยที่สุดเท่านั้น  นักประชาธิปไตยจะมองโลกในแง่ดี และให้โอกาสเพื่อนมนุษย์ได้เจริญเติบโตสูงสุด และมีการรับฟังความคิดเห็น, การให้มีการส่วนร่วมอย่างเข้มข้น, การไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น,  ผู้ปฏิบั้ติงานในอาชีพจะเป็นมืออาชีพแต่จะแยกการเมืองออกจากการทำหน้าที่ที่ดี เช่นผู้พิพากษาจะเที่ยงตรงทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม กองทัพจะเป็นกองทัพที่ทำประโยชน์ให้ประชาชนแต่จะไม่เข้ามาแทรกแซงทางการเมืองเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง และไม่ครอบงำทางสังคม และยึดมั่นว่าตนเองเป็นผู้ถูกต้องเสมอ  สังคมประชาธิปไตยที่คนเรายังอ่อนแอในความเข้าใจประชาธิปไตยก็จะทำให้สังคมเกิดความสับสน นำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะเกิดการมองต่างมุม และไม่ควรสรุปมุมมองของตนเร็วเกินไป  แต่จะต้องรับฟังเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนด้วย เพราะเสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์นนั่นเอง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ