ความคิดเชิงธุรกิจกับความคิดในการออกแบบ ตอนที่สี่

แนวทางการประเมิน (Evaluation approach)
         แต่ละทีมส่งรายงานความก้าวหน้าโครงการประจำสัปดาห์  และนักศึกษาแต่ละคนส่งคำวิจารณ์สะท้อนให้เห็น (DeFillippi,2001) ตามที่ชอน (1983,1987) และไซเบอร์ทและดอดลิน (1999)  การประชุมแต่ละครั้งใช้วิดีโอเทปในการทำการปรับปรุงเอกสารของนักศึกษาตลอดทั้งหลักสูตร
         คณะได้ถูกปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่มีการวัดผลสเกลเป็นสี่คะแนนเช่น (1) การสนับสนุนทีม (2) การวิจัย (3) แนวคิดและการออกแบบกราฟฟิค  (4) ความยืดหยุ่น  (5) การนำเสนอผลงานแก่ลูกค้า และ (6) หลักฐานเกี่ยวกับการเรียนรู้  สิ่งเหล่านี้นำใช้วัดค่าคะแนน  (ก) การทำงานเป็นทีม (ข) โครงการที่ปรึกษา  (ค) การรับฟังรายงานนำเสนอ (ง) การนำเสนอแบบพบกันครึ่งทาง และ (ง) การนำเสนอผลงานสุดท้าย     ทั้งมิติทั้งหลายของนักศึกษาแต่และคนนำไปใช้ช่วยให้นักศึกษาเตรียมตัวในการนำเสนอผลงานขั้นสุดท้าย   เพื่อพิจารณาระดับหลักสูตรของแต่ละระดับ และเพื่อวิเคราะห์ผู้สืบค้นในการศึกษานี้
         รายงานเป็นทีม, การสะท้อนภาพ และกฎเกณฑ์ของคณะและวิดีโอถูกวิเคราะห์โดยผู้สำรวจสำหรับประจักษ์พยานของการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้,ทัศนคติ,และลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การทบทวนจากลูกค้าธุรกิจและการทบทวนข้อมูลย้อนกลับจากทีมผู้บริหารระดับสูง และคณะที่ได้รับเชิญถูกนำมาใช้เป็นตัวชี้วัดของสิ่งสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมธุรกิจ, ความยืดหยุน,การคิดสร้างสรรค์และ
ผลการทำงานเป็นทีม   สมรรถนะของนักศึกษาได้รับการประเมินเกี่ยวกับการนำเสนอผลงาน  สไลด์พาวเวอร์พอยต์, การวิพากย์ผลสะท้อน และการประเมินโดยสมาชิกทีมงานคนอื่น ๆ    
ข้อค้นพบ (Findings)
           การศึกษาครังนี้แสดงให้เห็นการวิเคราะห์เชิงคุณภาพของผลที่ได้จากการเรียนรู้ของนักศึกษาที่เป็นผลมาจากการมีส่วนร่วมในหลักสูตรข้ามภาควิชา,ข้ามศาสตร์ และการออกแบบธุรกิจ  ข้อค้นพบที่รายงานในที่นี้เป็นพื้นฐานเกี่ยวกับการนำเสนอของทีม, การรายงานผลขั้นสุดท้ายของทีมนักศึกษา,การวิพากย์ผลสะท้อนของนักศึกษา,การกำหนดกฎของคณะ และทบทวนจากทีมผู้บริหารของลูกค้า และภาควิชาการตลาด
           การทบทวนย้อนกลับจากสมาชิกของทีมผู้บริหารที่เป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่เป็นเชิงบวกโดยทั่วไป และทุกทีมมีความหวังต่อองค์กรสำหรับผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่มีคุณภาพ  ตามที่ทีมผู้บริหารระดับสูง โดยทั่วไปนักศึกษาได้ถูกส่งมอบการรายงานผลอย่างมีประสิทธิผลที่ประกอบด้วยความคิดที่มีการหยั่งรู้อย่างมาก,มีความคิดสร้างสรรค์และยืดหยุ่น    ในขณะที่ประจักษ์พยานความคืบหน้าของความสำเร็จของนักศึกษา, ผู้รับบริการจะเกี่ยวข้องกับข้อเสนอแนะในแผนการตลาดของนักศึกษาอย่างมาก
         ในการวิเคราะห์การวิจารณ์ผลสะท้อนของแต่ละบุคคลได้ชี้ให้เห็นว่านักศึกษาได้ถูกจัดแจงในกระบวนการของภาพสะท้อนเชิงลึกและสิ่งนั้นส่วนมากมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจากประสบการณ์ตลอดหลักสูตร    เอกสารเหล่านี้เสนอแนะว่า ตลอดเวลานักศึกษาธุรกิจปรับตัวตามแนวคิดต่อโครงการของผู้มารับบริการโดยการปรับปรุงให้มีความเข้าใจจุดแข็งและข้อจำกัด   พวกเขาแสดงให้เห็นว่านักศึกษาธุรกิจได้พัฒนาความลึกซึ้งของแนวทางที่ได้นำเสนอและได้รับการจัดแจงโดยสมาชิกของทีมที่มีการอบรมการออกแบบ   แม้ว่ากระบวนการนี้  นักศึกษาแสดงให้เห็นว่าความสามารถในการจัดการได้อย่างมีประสิทธิผลในการปฏิบัติแบบวิพากย์ผลสะท้อนและใช้มันเป็นเครื่องมือในการทำผลงานให้ดีขึ้น
         การวิเคราะห์ผลสะท้อนภาพนักศึกษาทางธุรกิจ และรายงานความก้าวหน้าของทีมที่ดูเหมือนว่าจะแสดงการต่อยอดความคิดของพวกเขาเหล่านั้นตลอดหลักสูตรของประสบการณ์ในเชิงสหวิทยาการ สิ่งที่ต่อยอดได้แก่มิติการรับรู้, มิติทัศนคติ,และมิติความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลซึ่งนำเสนอโดยมาร์ตินและสรุปผลโดยดูนน์ (2006)  จากนักศึกษาเรียนออกแบบตั้งข้อสังเกตุว่าพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับ(หรือเรียนรู้มากขึ้น)  ความสำคัญของทีมงานและเกี่ยวกับความเข้าใจของผู้ฟังและลูกค้าเหล่านั้น ในทำนองตรงกันข้าม นักศึกษาธุรกิจส่วนมากดูเหมือนจะเข้าใจคุณลักษณะเด่นของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในความคิดการออกแบบ (โดยใช้ความร่วมมือและความเห็นอกเห็นใจกัน)  นักสำรวจพบประจักษ์พยานได้มากที่สุดด้วย  หากนักศึกษาธุรกิจไม่ไดเรียนรู้ความสำคัญของลักษณะการรับรู้ความคิดในการออกแบบ,การให้เหตุผลในเชิงนิรนัย หรือการแสดงความคิดออกมา
             นอกจากนี้การวิพากย์ผลสะท้อน เป็นที่ประจักษ์ว่าการร่วมมือที่มีคุณค่าของนักศึกษาอย่างน้อยที่สุดโดยสิ้นสุดภาคการศึกษาที่ถูกรวบรวมจากรายงานทีมขั้นสุดท้าย  ในเอกสารเหล่านี้ นอกจากการอภิปรายเพื่อตอบสนองของสมาชิกทีม, นักศึกษาที่กระจายความคิดของสมาชิกแต่ละทีมขึ้นอยู่กับคุณภาพของปัจจัยนำเข้า, ความพยายาม, และการมีส่วนร่วมของทีมทั้งหมด   นักศึกษาที่มีคะแนนโดยเฉลี่ยสูงได้รับจากสมาชิกทีมอื่น ๆ เช่น (4.83, อยู่ในช่วงคะแนน 3.5-5.5 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของ .63    ซึ่งแสดงให้เห็นคุณค่าสำหรับอีกคนหนึ่ง    นักศึกษาได้รับรายงานว่ามีความทราบซึ้งใหญ่หลวงในตอนปลายของหลักสูตรสูงกว่าการเริ่มต้นในการอุทิศตัวของสมาชิกทีม และความคิดเห็นที่ยิ่งใหญ่ของความฉลาดทางการรวมกลุ่ม   ดังนั้น ในรายงานทีม นักศึกษาส่วนมากให้รายละเอียดการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ชดเชยของจุดอ่อนของคนอื่น ๆ แต่ละคนและได้รับประโยชน์จากจุดแข็งของคนอื่น ๆ แต่ละคนได้ 
          นอกจากนี้ปัจจัยส่งผลหลักสูตรนี้เกี่ยวกับนักศึกษาธุรกิจที่ยอมรับความคิดในการออกแบบ,สหวิทยาการอื่นๆ ที่มีผลกระทบที่ได้จากการสังเกต    ทั้งนักศึกษาทางธุรกิจและออกแบบรายงานความร่วมมือทางวิชาการข้ามสาขาวิชาจากแนวคิดที่แตกต่างและความคิดที่หลากหลาย   นักศึกษาจะเรียนรู้ทักษะขั้นพื้นฐานใหม่ ๆ ตัวอย่างเช่น การแจ้งข่าวสารกับอีกทางหนึ่งกับทรัพยากรวิจัยซึ่งโดยปกติไม่ได้ใช้หลักวิชาที่ได้รับการยอมรับเหล่านั้น