ผลการวิจัยสำหรับผู้นิยมดื่มกาแฟที่มีผลต่อสุขภาพอย่างไร?
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เรียบเรียงและแปลจากบทความของ Yahoo
ความพึงพอใจที่เรียบง่ายของชีวิตหนึ่ง ๆอาจเป็นเพียงแต่แต่งเติมรสหวานให้กับชีวิตเพียงนิดหน่อย หลายปีที่ผ่านมาจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับกาแฟและสุขภาพ แม้ว่าบางคนเกรงกลัวว่าผลของการดื่มกาแฟเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคหัวใจ แต่จากการศึกษาอย่างกว้างขวางพบว่าเป็นเรื่องตรงกันข้ามที่ว่าผู้ดื่มกาแฟมีน้อยมากที่จะมีชีวิตที่ยืนนานกว่า ซึ่งอันที่จริงแล้วการดื่มกาแฟตามปรกติหรือการงดดื่มกาแฟไม่ใช่เรื่องที่มีสาระอะไร
จากการศึกษาประชากร 400,000 คนซึ่งเป็นการศึกษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเด็นปัญหาการดื่มกาแฟมีผลกับสุขภาพอย่างไร? และจากผลวิจัยควรจะมั่นใจว่าผู้รักการดื่มกาแฟที่คิด่าจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่สบายใจว่าอาจจะมีอันตราย "จากการศึกษาของเราพบว่าไม่มีผลอย่างแท้จริงต่อสุขภาพ" กล่าวโดยหัวหน้านักวิจัยชื่อ นีล ฟรีดแมนของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ "อาจจะมีผลที่ในการดื่มกาแฟก็เป็นได้" ไม่มีใครรู้เหตุผลว่าทำไม กาแฟประกอบด้วยสิ่งมากมายคณานับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ จากสารแอนตี้ท๊อกซิแดนท์ต่อปริมาณสารที่เชื่อมโยงไปสู่การเป็นมะเร็ง" ซึ่งส่วนผสมจากการศึกษาอย่างกว้างขวางก็คือคาเฟอิน ไม่ได้มีบทบาทในผลการวิจัยใหม่เลย ไม่ใช่การศึกษาที่ผ่านมาผิดพลาด แต่ประจักษ์พยานพบว่าการแฟนั้นเพิ่มแอลดีแอล หรือทำให้เกิดแคลอลโตรอลที่ไม่ดี และความดันเลือดซึ่งเป็นช่วงสั้น ๆ และสิ่งนั้นในทางกลับกันจะทำให้เสียงต่อการเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น
แม้แต่ในการศึกษาครั้งใหม่นี้ ครั้งแรกดูเหมือนว่าผู้ดื่มกาแฟเชื่อว่าจะตายในเวลาที่กำหนดไว้ แต่พวกเขายังมีแนวโน้มการสูบบุหรี่, ดื่มอัลกาฮอล์, กินเนื้อแดงมาก และออกกำลังกายน้อยกว่าผู้ไม่ดื่มกาแฟ
ครั้งหนึ่งนักวิจัยได้นำเอาสิ่งเหล่านั้นเป็นกรณีที่ใช้ในการวิจัย จากรูปแบบที่ชัดเจนคือกาแฟครั้งละหนึ่งถ้วยต่อวันกลับมีผลดีต่อโอกาสการมีชีวิตที่นานกว่า การศึกษาวิจัยครั้งนี้ดำเนินการโดยสถาบันเกี่ยวสุขภาพแห่งชาติ และ AARP ผลวิจัยตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ของอังกฤษประจำวันพฤหัสบดี สิ่งที่ต้องระมัดระวังก็คือ - ไม่มีผลพิสูจน์ว่ากาแฟช่วยให้คนเรามีชีวิตที่นานขึ้น เพียงแต่มีผลเชื่อมโยงสองประการที่สัมพันธ์กัน เช่นผลการศึกษาส่วนมากเกี่ยวกับอาหารหลักกับสุขภาพ สิ่งหนึ่งคืออคติอย่างแรงในการสังเกตนิสัยบุคคล และเป็นผลต่อสุขภาพ ดังนั้นไม่สามารถพิสูจน์เหตุและผลได้ แต่ด้วยการศึกษาจากคนจำนวนมาก มากกว่าหนึ่งทศวรรษของการติดตามและความตายอย่างเพียงพอในการเปรียบเทียบ "สิ่งนี้เป็ฯไปได้จากประจักษ์พยานที่ดีที่สุดที่เรามี และเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น จากคำกล่าวของ ดร.แฟรงค์ ฮู ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเกี่ยวกับสุขภาพสาธารณะ เขาไม่ได้มีบทบาทในการศึกษาครั้งนี้ที่จะช่วยนำเอาการศึกษาที่ผ่านมาที่ค้นพบว่ากาแฟมีประโยชน์
จากการศึกษาวิจัยครั้งใหม่ในปี 1995 และเกี่ยวข้องกับสมาชิก AARPที่อายุ 50-71 ปีในรัฐคาลิฟอร์เนีย,ฟลอริด้า,หลุยส์เซียน่า, นิวเจอร์ซี, นอร์ทคาโรไลนา, เพ็นซิลวาเนีย และแอตแลนต้า และดีทรอยท์ ประชาชนที่เป็นโรคหัวใจ, หัวใจรั่ว หรือมะเร็งไม่ได้เกี่ยวกับการดื่มกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตในการกินอาหารหลักอยู่เป็นประจำ ซึ่งอาหารจะมีคาลอรี่มากหรือน้อยต่อวัน จากครั้งหนึ่งในส่วนที่ให้ข้อมูลในส่วนที่ยังเหลืออยู่เกี่ยวกับการดื่มกาแฟ ในจุดเริ่มต้นของการศึกษา "คนเราไม่มีความสอดคล้องอย่างถูกต้องในการดื่มกาแฟตลอดชีวิต" ดังนั้นการวัดเพียงไม่กี่ครั้งไม่ควรจะเป็นข้อจำกัดที่ยิ่งใหญ่ ฟรีดแมนกล่าว ส่วนมากคนดื่มกาแฟวันละสองหรือสามถ้วย
จากประชากรที่ศึกษาถึง 402,260 คน มีเพียง 42,000 คนไม่ดื่มกาแฟ อีก 15,000 คนดื่มกาแฟวันละ 6 ถ้วยหรือมากกว่า จากปี 2008 ประมาณ 52,000 คนที่เสียชีวิตลง เมื่อเปรียบเทียบกับคนไม่ดื่มกาแฟ ที่คนเราดื่มกาแฟเพียงสองหรือสามถ้วยต่อวันเสียชีวิตน้อยเพียง 10 % ในทุกอายุวัย สำหรับสตรีจะมีผู้เสียชีวิต 13 % แม้แต่การดืมกาแฟเพียงแก้วเดียวต่อวันก็มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตน้อยมากเพียง 6% ในผู้ชาย และ 5 % ในผู้หญิง ผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดในผู้หญิงที่ดื่มวัน 4-5 แก้วต่อวัน มีถึง 16 % ที่มีความเสียงต่ำต่อการสูญเสียชีวิต และไม่มีกลุ่มประชากรใด ๆเลยที่ชี้ให้เห็นเป็นตัวเลขที่มาก แม้ว่าฟรีดแมนไม่ได้กล่าวว่าการแฟเสริมสร้างชีวิตพิเศษที่อาจจะซื้อได้ กล่าวว่า "
"ผมไม่ได้คำนวณอย่างแท้จริง" โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อทุกวัยของชีวิต นักดื่มกาแฟตายจากโรคหัวใจค่อนข้างน้อยหรือโรคระบบทางเดินหายใจ,เครื่องช่วยหายใจ,โรคเบาหวาน,อุบัติเหตุ, การเจ็บป่วย,หรือการได้รับโรคร้าย ไม่มีผลที่เห็นจากการเสี่ยงการสูญเสียชีวิตด้วยมะเร็ง แม้ว่าผลวิจัยอื่นๆ ที่โยงกับการดื่มกาแฟในระดับที่บ่งชี้แผลอักเสบและการต้านอินซูลีน นักวิจัยยังได้วินิจฉัยว่าคนที่สุขภาพไม่ดีอาจจะงดการดื่มกาแฟและไม่ว่าจะมองอย่างมีอคติจากผลวิจัยก็ตาม แต่ผลการศึกษาก็ตัดปัญหาคนที่เป็นโรคมะเร็ง และโรคระบบหายใจ ปัญหาสุขภาพที่พบทั่วไปมากที่สุด คือการลดโอกาสให้น้อยที่สุด แม้ว่าผลประโยชน์อย่างมากที่สุดของการดื่มกาแฟพบเห็นได้ในบุคคลที่มีสุขภาพดีที่สุดเมื่อมีการศึกษานี้เพิ่มเติม ประมาณสองในสามของผู้ตอบแบบสอบถามปรกติดื่มกาแฟ, และที่เหลืองดกาแฟ รูปแบบของกาแฟไม่มีความแตกต่างในผลวิจัย ฮูได้ให้คำแนะนะผู้นิยมดื่มกาแฟดังนี้
- จงระวังน้ำตาลและครีม คาลอรี่พิเศษและความอ้วนทำให้ได้รับผลร้ายจากกาแฟ
- ดื่มกาแฟที่ชงมากกว่าต้ม - การชงทำให้สารผสมเคลื่อนย้ายเป็นตัวเพิ่มสารแอลดีแอลก่อให้เกิดคอแลสเตอรัลที่ไม่ดี
ผู้วิจัยไม่ได้มองไปที่ชา, โซดา,หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ แต่มีแผลในการวิเคราะห์ในอนาคต ลูและมารินน์ มาริส ได้ทำการเปรียบเทียบสิ่งเหล่านี้ การจิบกาแฟในร้านกาแฟหน้าทะเลสาบ ในชานเมืองมิลค์วอกี้ทังคู่บอกถึงวิธีการเลี่ยงกาแฟหลังจากได้เลิกดื่มกาแฟในปี 1970 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพที่แข็งแรงคือการนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ และการรับประทานผักต่าง
จึงเท่ากับว่าผลวิจัยครั้งนี้ได้ทำให้การสร้างข่าวลือเกี่ยวกับกาแฟ หรือการมีอคติต่อกาแฟลดลงเมื่อคนเราเข้าใจจากผลงานวิจัยครั้งนี้
ความพึงพอใจที่เรียบง่ายของชีวิตหนึ่ง ๆอาจเป็นเพียงแต่แต่งเติมรสหวานให้กับชีวิตเพียงนิดหน่อย หลายปีที่ผ่านมาจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับกาแฟและสุขภาพ แม้ว่าบางคนเกรงกลัวว่าผลของการดื่มกาแฟเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคหัวใจ แต่จากการศึกษาอย่างกว้างขวางพบว่าเป็นเรื่องตรงกันข้ามที่ว่าผู้ดื่มกาแฟมีน้อยมากที่จะมีชีวิตที่ยืนนานกว่า ซึ่งอันที่จริงแล้วการดื่มกาแฟตามปรกติหรือการงดดื่มกาแฟไม่ใช่เรื่องที่มีสาระอะไร
จากการศึกษาประชากร 400,000 คนซึ่งเป็นการศึกษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเด็นปัญหาการดื่มกาแฟมีผลกับสุขภาพอย่างไร? และจากผลวิจัยควรจะมั่นใจว่าผู้รักการดื่มกาแฟที่คิด่าจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่สบายใจว่าอาจจะมีอันตราย "จากการศึกษาของเราพบว่าไม่มีผลอย่างแท้จริงต่อสุขภาพ" กล่าวโดยหัวหน้านักวิจัยชื่อ นีล ฟรีดแมนของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ "อาจจะมีผลที่ในการดื่มกาแฟก็เป็นได้" ไม่มีใครรู้เหตุผลว่าทำไม กาแฟประกอบด้วยสิ่งมากมายคณานับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ จากสารแอนตี้ท๊อกซิแดนท์ต่อปริมาณสารที่เชื่อมโยงไปสู่การเป็นมะเร็ง" ซึ่งส่วนผสมจากการศึกษาอย่างกว้างขวางก็คือคาเฟอิน ไม่ได้มีบทบาทในผลการวิจัยใหม่เลย ไม่ใช่การศึกษาที่ผ่านมาผิดพลาด แต่ประจักษ์พยานพบว่าการแฟนั้นเพิ่มแอลดีแอล หรือทำให้เกิดแคลอลโตรอลที่ไม่ดี และความดันเลือดซึ่งเป็นช่วงสั้น ๆ และสิ่งนั้นในทางกลับกันจะทำให้เสียงต่อการเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น
แม้แต่ในการศึกษาครั้งใหม่นี้ ครั้งแรกดูเหมือนว่าผู้ดื่มกาแฟเชื่อว่าจะตายในเวลาที่กำหนดไว้ แต่พวกเขายังมีแนวโน้มการสูบบุหรี่, ดื่มอัลกาฮอล์, กินเนื้อแดงมาก และออกกำลังกายน้อยกว่าผู้ไม่ดื่มกาแฟ
ครั้งหนึ่งนักวิจัยได้นำเอาสิ่งเหล่านั้นเป็นกรณีที่ใช้ในการวิจัย จากรูปแบบที่ชัดเจนคือกาแฟครั้งละหนึ่งถ้วยต่อวันกลับมีผลดีต่อโอกาสการมีชีวิตที่นานกว่า การศึกษาวิจัยครั้งนี้ดำเนินการโดยสถาบันเกี่ยวสุขภาพแห่งชาติ และ AARP ผลวิจัยตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ของอังกฤษประจำวันพฤหัสบดี สิ่งที่ต้องระมัดระวังก็คือ - ไม่มีผลพิสูจน์ว่ากาแฟช่วยให้คนเรามีชีวิตที่นานขึ้น เพียงแต่มีผลเชื่อมโยงสองประการที่สัมพันธ์กัน เช่นผลการศึกษาส่วนมากเกี่ยวกับอาหารหลักกับสุขภาพ สิ่งหนึ่งคืออคติอย่างแรงในการสังเกตนิสัยบุคคล และเป็นผลต่อสุขภาพ ดังนั้นไม่สามารถพิสูจน์เหตุและผลได้ แต่ด้วยการศึกษาจากคนจำนวนมาก มากกว่าหนึ่งทศวรรษของการติดตามและความตายอย่างเพียงพอในการเปรียบเทียบ "สิ่งนี้เป็ฯไปได้จากประจักษ์พยานที่ดีที่สุดที่เรามี และเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น จากคำกล่าวของ ดร.แฟรงค์ ฮู ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเกี่ยวกับสุขภาพสาธารณะ เขาไม่ได้มีบทบาทในการศึกษาครั้งนี้ที่จะช่วยนำเอาการศึกษาที่ผ่านมาที่ค้นพบว่ากาแฟมีประโยชน์
จากการศึกษาวิจัยครั้งใหม่ในปี 1995 และเกี่ยวข้องกับสมาชิก AARPที่อายุ 50-71 ปีในรัฐคาลิฟอร์เนีย,ฟลอริด้า,หลุยส์เซียน่า, นิวเจอร์ซี, นอร์ทคาโรไลนา, เพ็นซิลวาเนีย และแอตแลนต้า และดีทรอยท์ ประชาชนที่เป็นโรคหัวใจ, หัวใจรั่ว หรือมะเร็งไม่ได้เกี่ยวกับการดื่มกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตในการกินอาหารหลักอยู่เป็นประจำ ซึ่งอาหารจะมีคาลอรี่มากหรือน้อยต่อวัน จากครั้งหนึ่งในส่วนที่ให้ข้อมูลในส่วนที่ยังเหลืออยู่เกี่ยวกับการดื่มกาแฟ ในจุดเริ่มต้นของการศึกษา "คนเราไม่มีความสอดคล้องอย่างถูกต้องในการดื่มกาแฟตลอดชีวิต" ดังนั้นการวัดเพียงไม่กี่ครั้งไม่ควรจะเป็นข้อจำกัดที่ยิ่งใหญ่ ฟรีดแมนกล่าว ส่วนมากคนดื่มกาแฟวันละสองหรือสามถ้วย
จากประชากรที่ศึกษาถึง 402,260 คน มีเพียง 42,000 คนไม่ดื่มกาแฟ อีก 15,000 คนดื่มกาแฟวันละ 6 ถ้วยหรือมากกว่า จากปี 2008 ประมาณ 52,000 คนที่เสียชีวิตลง เมื่อเปรียบเทียบกับคนไม่ดื่มกาแฟ ที่คนเราดื่มกาแฟเพียงสองหรือสามถ้วยต่อวันเสียชีวิตน้อยเพียง 10 % ในทุกอายุวัย สำหรับสตรีจะมีผู้เสียชีวิต 13 % แม้แต่การดืมกาแฟเพียงแก้วเดียวต่อวันก็มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตน้อยมากเพียง 6% ในผู้ชาย และ 5 % ในผู้หญิง ผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดในผู้หญิงที่ดื่มวัน 4-5 แก้วต่อวัน มีถึง 16 % ที่มีความเสียงต่ำต่อการสูญเสียชีวิต และไม่มีกลุ่มประชากรใด ๆเลยที่ชี้ให้เห็นเป็นตัวเลขที่มาก แม้ว่าฟรีดแมนไม่ได้กล่าวว่าการแฟเสริมสร้างชีวิตพิเศษที่อาจจะซื้อได้ กล่าวว่า "
"ผมไม่ได้คำนวณอย่างแท้จริง" โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อทุกวัยของชีวิต นักดื่มกาแฟตายจากโรคหัวใจค่อนข้างน้อยหรือโรคระบบทางเดินหายใจ,เครื่องช่วยหายใจ,โรคเบาหวาน,อุบัติเหตุ, การเจ็บป่วย,หรือการได้รับโรคร้าย ไม่มีผลที่เห็นจากการเสี่ยงการสูญเสียชีวิตด้วยมะเร็ง แม้ว่าผลวิจัยอื่นๆ ที่โยงกับการดื่มกาแฟในระดับที่บ่งชี้แผลอักเสบและการต้านอินซูลีน นักวิจัยยังได้วินิจฉัยว่าคนที่สุขภาพไม่ดีอาจจะงดการดื่มกาแฟและไม่ว่าจะมองอย่างมีอคติจากผลวิจัยก็ตาม แต่ผลการศึกษาก็ตัดปัญหาคนที่เป็นโรคมะเร็ง และโรคระบบหายใจ ปัญหาสุขภาพที่พบทั่วไปมากที่สุด คือการลดโอกาสให้น้อยที่สุด แม้ว่าผลประโยชน์อย่างมากที่สุดของการดื่มกาแฟพบเห็นได้ในบุคคลที่มีสุขภาพดีที่สุดเมื่อมีการศึกษานี้เพิ่มเติม ประมาณสองในสามของผู้ตอบแบบสอบถามปรกติดื่มกาแฟ, และที่เหลืองดกาแฟ รูปแบบของกาแฟไม่มีความแตกต่างในผลวิจัย ฮูได้ให้คำแนะนะผู้นิยมดื่มกาแฟดังนี้
- จงระวังน้ำตาลและครีม คาลอรี่พิเศษและความอ้วนทำให้ได้รับผลร้ายจากกาแฟ
- ดื่มกาแฟที่ชงมากกว่าต้ม - การชงทำให้สารผสมเคลื่อนย้ายเป็นตัวเพิ่มสารแอลดีแอลก่อให้เกิดคอแลสเตอรัลที่ไม่ดี
ผู้วิจัยไม่ได้มองไปที่ชา, โซดา,หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ แต่มีแผลในการวิเคราะห์ในอนาคต ลูและมารินน์ มาริส ได้ทำการเปรียบเทียบสิ่งเหล่านี้ การจิบกาแฟในร้านกาแฟหน้าทะเลสาบ ในชานเมืองมิลค์วอกี้ทังคู่บอกถึงวิธีการเลี่ยงกาแฟหลังจากได้เลิกดื่มกาแฟในปี 1970 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพที่แข็งแรงคือการนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ และการรับประทานผักต่าง
มาเรียนน์ มาริส ได้กดน้ำชาหลังจากรักษาโรคมะเร็งที่หน้าอกในปี 2008 แต่ก็พลาดโอกาสในการลิ้มรสชาดกาแฟ มันเป็นความพอใจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะว่าสามีของหล่อนได้ชงกาแฟให้ หล่อนกล่าว "ไม่มีสิ่งใดที่จะสร้างความพอใจให้กับฉัน เท่ากับกาแฟหนึ่งถ้วยใv9นยามเช้า"
สรุปผลวิจัยครั้งนี้ ทำให้คนเราควรลดอคติต่อการดื่มกาแฟวันละแก้ว หรือไม่เกินสองแก้ว เพราะกาแฟช่วยเติมสีสันให้กับชีวิต ไม่ได้มีอันตรายมากมายอย่างที่คิด เพียงแต่ระวังเรื่องน้ำตาลและครีมเท่านั้น ซึ่งไม่ควรใส่มาก แต่ใส่ให้พอดีกับปริมาณที่สมดุลย์เพื่อลดความอ้วน และน้ำตาลในเส้นเลือดจึงเท่ากับว่าผลวิจัยครั้งนี้ได้ทำให้การสร้างข่าวลือเกี่ยวกับกาแฟ หรือการมีอคติต่อกาแฟลดลงเมื่อคนเราเข้าใจจากผลงานวิจัยครั้งนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น