การจัดการวิกฤติกับภัยพิบัติธรรมชาติ


 
       เมื่อข้าพเจ้าได้เข้าร่วมประชุมผู้นำธุรกิจในสัปดาห์ที่แล้วมาเพื่อให้ธุรกิจของ พวกเขานั้นก้าวไปสู่ระดับแนวหน้า  วันที่สองผมได้พบกับผู้นำคนหนึ่งที่พักอาศัยอยู่ในเมืองเพ็นซาโคลา รัฐฟลอริด้า  และเราเริ่มต้นพูดคุยเกี่ยวกับวิกฤติน้ำมันรั่วไหลและการส่งผลกระทบต่อ พื้นที่ชุมชน  ในขณะที่ผู้นำได้ร่วมกันถ่ายรูปบุคคลที่แก้ปัญหาน้ำมันรั่วตามชายฝั่งทะเล   เช่นเดียวกับพวกคุณทั้งหมด เราเริ่มต้นที่จะอธิบายกลยุทธ์สำหรับการขจัดคราบน้ำมันให้สะอาดและที่สำคัญ มากที่สุดในผลกระทบระยะยาวในชายฝั่งทะเลใกล้อ่าว ซึ่งกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารทะเล,อุตสาหกรรมนักท่องเที่ยว,และชีิวิ ตที่ทุกข์ทรมานและผลกระทบระยะยาวของภัยพิบัติ
       และเช่นกันเราได้หารือเกี่ยวกับการเมืองที่มีสาระ -- ในที่นี้ไม่ควรมี"พวกเรากับพวกเขา" การเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางการเมืองทำให้เกิดเป็นปัญหาของ "พวกเรา"  เราได้รับผลกระทบทั้งหมด (หรือได้รับผลกระทบ) จากภัยพิบัตินี้ ... และบางทีสำหรับคนรุ่นหลังที่จะตามมา จากการสนทนาของเราก็เริ่มที่จะสงสัยว่าหลายธุรกิจที่เข้าไปในประเภทของความ ลึกใด ๆ ในการฟื้นฟูภัยพิบัติ และกลยุทธ์การจัดการวิกฤติในระดับองค์กรเช่นเดียวกับในระดับโครงการต่อโครงการใช่ใหม?
      คุณอาจแปลกใจว่าสิ่งที่เกิดการกู้คืนภัยพิบัติ ซึ่งการจัดการวิกฤตได้ทำร่วมกับ Humpty Dumpty เมื่อคิดถึง Humpty Dumpty ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการขนาดใหญ่    แหล่งความคิดที่ยิ่งใหญ่ที่พวกเขา ความคิดที่ยิ่งใหญ่กับการแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ซึ่งจะขับเคลื่อนองค์การให้ ก้าวไปข้างหน้าเหนือองค์การอื่น ๆ  หรือความคิดใด ๆ ที่มีผลกระทบระดับโลกที่ทุกสิ่งทุกอย่างทำได้ดีกว่า เนื่องจากการทำตามความคิด หรือผลิตภัณฑ์/บริการใหม่ ๆที่จะเพิ่มมูลค่าหุ้นกว่า 200 %
     สิ่งนี้ทำให้ Humpty Dumpty ต้องยืนหยัดเพื่อกำหนดมาตรฐานความยิ่งใหญ่ที่เป็นพิเศษ  ดังนั้นบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นภายในหรือนอกเหนือการควบคุมของคุณซึ่งเป็น สาเหตุที่ทำให้ Humpty Dumpty ที่จะก่อให้เกิดผลกระทบกับคนอื่นในสเกลที่ใหญ่หลวง
      คำถามจะกลายเป็น -- คุณได้ดึงเอาส่วนที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง จากการหารือกับ Humpty Dumpty เพื่ออธิบายถึงสิ่งล้มเหลวผิดพลาดก่อนที่เขาจะรู้สึกใช้ (กลยุทธ์) หรือการจัดลำดับความสำคัญเกี่ยวกับความผิดพลาด (ในทางยุทธวิธี) ใช่ใหม?   ผู้นำธุรกิจน้อยมากที่จะนำเอาแผนงานที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการจัดการวิกฤติ/การ ฟื้นฟูภัยพิบัติ/การจัดการความเสี่ยงที่สัมพันธ์กับแผนงาน/ผลิตภัณฑ์/บริการ ที่พวกเขาปรารถนาที่จะเผยแพร่สู่ตลาด  แน่นอนมีเหตุผลหลายประการสำหรับการปฏิบัิติงานแต่ละอย่าง  อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ปัจจุบันบอกกับพวกเราว่าความล้มเหลวในการฟื้นฟูภัยพิบัติ/แผน งานการจัดการวิกฤติสามารถสร้างผลกระทบระยะยาวเกี่ยวกับธุรกิจของคุณเช่น เดียวกับระบบเศรษฐกิจโลกสำหรับคนรุ่นต่อไปที่จะมาถึง
      ผู้นำต้องวางแผนวิกฤติ กล่าวคือเหตุการณ์ที่นำมาสู่อันตรายที่คุกคามการเจ็บป่วย,เสียชีวิต และทบทวนการเงินที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างลึกซึ้งหรือแม้แต่การปิดตัว บริษัท  อย่างไรก็ตามหากคุณสามารถรวบรวมความสามารถเฉพาะอย่างเข้ามา  คุณสามารถใช้องค์การของคุณได้ดีขึ้นเพื่อเอาชัยชนะวิกฤติ
      วิกฤติและภัยพิบัติที่ผ่านมาได้แก่เหตุการณ์ที่ความคิดครั้งหนึ่งเคยบอกว่า เป็นไปไม่ได้  ความหายนะได้แก่การโจมตีของผู้ก่อการร้าย,ภัยพิบัติธรรมชาิติใหญ่พอที่พยุง เมืองใหญ่ที่สำคัญและหรืออุตสาหกรรม, การโจมตีจากไซเบอร์และัความเสียหายทางธุรกิจ    องค์การในปัจจุบันต้องมีการปรับปรุงภาวะจิตใจที่มีการเตรียมพร้อมเมื่อเกิด การประท้วงวิกฤติ    วิกฤติการณ์นี้เกิดขึ้นจนเท่าทุกวันนี้  พวกเขากลับเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ  ไม่มีอุตสาหกรรมใดหรือองค์การใดที่จะได้รับความปลอดภัย แต่คุณจะต้องประคองกิจการด้วยความเคร่งเครียดมากที่สุดตามด้วยการเปลี่ยน แปลงทีละน้อยในการเปลี่ยนแปลงแผนงานและจัดการวิกฤติ        
      การจัดการความเสี่ยงอย่างละเอียดถี่ถ้วนต้องผ่านเวทีที่ต้องการวางแผนล่วง หน้า และลงทุนปกป้อง   ประการแรก ป้องกันและบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติก่อนที่ความเสี่ยงใด ๆ จะเกิดขึ้น ประการที่สองเตรียมการตอบสนองอย่างเร่งด่วน  ประการที่สามสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการฟื้นฟู ประการที่สี่ นำข้อเสนอมาตอบสนองปัญหาอย่างเพียงพอโดยการเผยแพร่ความเสียหายที่เกิดขึ้นใน ระหว่างเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง    จงจำไว้ว่าต้องรับผิดชอบกับองค์การในส่วนของคุณในวิกฤติ ขั้นที่ห้าคือการฟื้นฟูอย่างแท้จริงที่จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานขึ้น มาใหม่เพื่อตอบสนองต่อสวัสดิภาพทั่วไป  ขั้นสุดท้ายบทเรียนที่เป็นประสบการณ์/การปรับกลยุทธ์อื่น ๆ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว  องค์การของคุณจำเป็นต้องทำอะไรเพื่อการป้องกันจากเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น อีกครั้งหนึ่ง?
       ต่อไปนี้คุณจะพบกลยุทธ์ที่ล้มเหลวก่อนและภายหลังกลยุทธ์ที่ล้มเหลวองค์การ สามารถนำไปปรับใช้เพื่อให้เกิดความมั่นใว่าคุณสามารถที่ดึงความคิดของ Humpty Dumpty กลับมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?
      กลยุทธ์เพื่อฟื้นฟูภัยพิบัติ/การจัดการวิกฤติก่อนที่จะเสียหาย
         1. การพยากรณ์ความเสี่ยง  ในกรณีนี้จะต้องใช้เทคนิคการคาดคะเนที่ถูกต้องแม่นยำ
         2. การสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการเสี่ยงภัย  คนส่วนคาดคะเนว่าภัยพิบัติที่มีแนวโน้มจะลดลงจะไม่เกิดผลกระทบกับพวกเขา   การขยายเวลาเส้นแบ่งเวลาให้กว้างขวางขึ้นสำหรับภัยพิบัติช่วยให้บุคลากร องค์การที่ประเมินถึงวิธีการทีพวกเขาได้รับอันตราย   การช่วยเจ้าของเพื่ออำนวยการผลิตภายในช่วงชีวิต 25 ปีเพื่อเข้าใจกับการเสี่ยงภัยเรื่องน้ำท่วม    แสดงข้อมูลเหล่าน้นให้เห็นเพื่อชี้ให้เห็นน้ำท่วมกับโอกาสเกิดขึ้นหนึ่งใน ร้อยปี   การเกิดในช่วง 25 ปีที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ใหญ่หลวงมากกว่า 1 ใน 5 ในการนำเสนอความเป็นไปได้ในโอกาส 1 ใน 100 ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาซึ่งไม่อาจหยุดยั้งได้
          3. สิ่งตอบแทนทางเศรษฐกิจ  เงินสามารถจูงใจประชาชนในการปกป้องพวกเขาเองจากภัยพิบัติ ตัวอย่างเช่นการลดค่าธรรมเนียมประกันภัยของรัฐมิสซิสซิปปี้ที่ซื้อประกันภัย จากป้องกันน้ำท่วม
          4. การเป็นหุ้นส่วนภาครัฐและธุรกิจ   ภัยพิบัติมีผลกระทบต่อองค์การภาครัฐและเอกชน ดังนั้นผู้บริหารควรจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการใช้กลยุทธ์เร่งด่วนร่วม กันและมีแผนป้องกัน
          5. ยืดหยุ่นและสร้างความยั่งยืน - องค์การต้องพิจารณาว่าหากพวกเขาจะต้องสามารถดำเนินการในการทำหน้าที่ภายหลัง ภัยพิบัติอย่างเร่งด่วน  คำถามนี้ยังคงเกี่ยวกับการปกป้องประเทศชาติ ในประเทศกำลังพัฒนาที่มีโครงสร้างคุณภาพต่ำ, การใช้ประโยชน์จากที่ดินไม่ดี,การตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินยังไม่พอเพียง และอื่น ๆ
          Mitroff (2005) แนะนำว่าผู้นำธุรกิจจะต้องผ่านวัฎจักรวิกฤติ (The Wheel of Crisis) ในการดำเนินการด้วยภาวะผู้นำ/ทีมแผนงานก่อนที่จะปล่อยผลิตภัณฑ์หรือบริการ ใหม่ ๆ  จะต้องมีการค้ำยันทางกายภาพเพื่อทดสอบกับกงล้อวิกฤติขนาดใหญ่ซึ่งจะต้องมี หน้าปัทม์ที่ยืดหยุ่น  ซึ่งลดและหยุดการเปลี่ยนแปลงวัฎจักร    ครั้งหนึ่งเคยได้หยุดยั้งได้แล้ว จงอธิบายวิกฤติิที่เป็นไปได้เมื่อเกิดขึ้นและการกระทำที่จำเป็นต่อการวางแผน ป้องกันเช่นวิกฤติหนึ่ง ๆ หรือการกระทำที่ควรปฏิบัติภายหลังวิกฤติเกิดขึ้น  เครื่องมือนี้ควรจะเป็นส่วนสำคัญของเครื่องผู้จัดการโครงการเพื่อความ สำเร็จ  จัดทำรายละเอียดในแต่ละของภาคส่วนของกงล้อในวิกฤติที่เกิดขึ้น
       1. เศรษฐกิจ - วิกฤตินี้มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ
       2. ข้อมูลข่าวสาร- ข้อมูลที่สูญหาย ข้อมูลผิดพลาดตกหล่น อันเกิดจาก Y2K, ไวรัส
       3. ทางกายภาย- วิกฤติส่งผลกระทบต่อสิ่งก่อสร้าง,อุปกรณ์หรือสินค้าอะไรบ้าง
       4. ทรัพยากรมนุษย์- ปัญหาแรงงาน, การกระทำความผิดหรืออาชญากรรมที่ซ้ำเติมวิกฤติ
       5. ชื่อเสียง - จงมีอารมณ์ขันบ้างและความเจ็บปวดต่อการใส่ร้ายในองค์การของคุณ
       6. ภัยพิบัติธรรมชาติ- เช่นพายุหมุนเฮอริเคน, ไฟใหม้,หรือดินถล่มทลาย
    เพื่อให้มั่นใจว่าองค์การของคุณคลอบคลุมเกี่ยวกับก่อฐานกั้น รวบรวมองค์ประกอบ  แผนใดที่จำเป้นตัองกำหนดให้มั่นใจถึงความล้มเหลวและฟื้นฟูอย่างสูงสุด
      กลยุทธ์เพื่อการฟื้นฟูภัยพิบัติ/การจัดการวิกฤติหลังจากน้ำท่วม  การตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการเสี่ยงภัยที่เกี่ยวข้องการชั่งน้ำหนักความ เป็นไปได้และผลประโยชน์ และความสูญเสีย การส่งเสริมวิเคราะห์ทางสถิติและการพิจารณาทางเลือก  ตามไปด้วยหลักการต่างที่ได้รับมา, การประเมินผลและการจัดการความเสี่ยงในเหตุการณ์อย่างถึงที่สุด
       1. ความซาบซึ้งถึงความสำคัยของการประเมินวิกฤติ  - ในขณะที่มีการคำนวณที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน, องค์การจำเป็นต้องได้ข้อมูลข่าวสารที่ดีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัย
       2. การตระหนักถึงการพึ่งพิงที่เกี่ยวข้องกับวิกฤติ   ทุก ๆ ความเสี่ยงภัยเป้นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับภายนอกสิ่งแวดล้อม  แต่ละวิกฤติต้องเชื่อมโยงกับการส่งเสริมพลวัตร และความไม่แน่นอนทีเกิดขึ้น  ซึ่งขึ้นอยู่กับเหตุการณ์  โปรดรักษาความเสี่ยงภัยด้วยการพยากรณ์ให้ทันเหตุการณ์
       3. การเข้าใจถึงอคติในพฤติกรรมของบุคคลเมื่อเิกิดการปรับปรุงกลยุทธ์การจัดการ วิกฤติ  บุคคลอาจโต้แย้งความลำเอียงจากความเสียหาย  ตัวอย่างเช่นผู้นำอาจจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เป็นบางครั้งจากเสีียงเรียก ร้องที่ไม่พอใจ
       4. ตระหนักถึงผลกระทบระยะยาวของวิกฤติ/ภัยพิบัติ - ความหายนะที่เปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เิกิดขึ้นอย่างอย่างต่อเนื่อง
       5. ตระหนักถึงความเสี่ยงภัยของพรมแดนที่เชื่่อมต่อจากการปรับปรุงกลยุทธ์ระดับ โลก  ในแง่ภัยพิบัติ, พรมแดนของชาติเป็นเรื่องน่าสับสน  สึนามิในปี 2004 ได้สังเวยชีวิตคนใน 11 ประเทศ
      6. เอาชนะความไม่เท่าเทียมในการแจกจ่ายและผลจากความหายนะ - จงเตรียมการช่วยเหลือให้พร้อมในความจำเป็น
       7. การสร้างภาวะผู้นำเพื่อหลึกเลี่ยงและเพื่อตอบสนองภัยพิบัติก่อนเท่าที่จำ เป็น- มีการวางแผนและเตรียมการเพื่อรองรับภัยพิบัติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มากกว่าการรอคอยจนกระทั่งเกิดการสไตร็คฉุกเฉิน  
        การผลักดันภายหลังวิกฤติของคุณคือการได้กลับไปที่ธุรกิจ Barton (2007) แนะนำเสาหลักดังต่อไปนี้ต่อเนื่องทางธุรกิจ :
        เมื่อเกิดแรงผลักจากหลังวิกฤติจะต้องกลับมาฟื้นฟูธุรกิจ  ตามข้อเสนอแนะของบาร์ตัน (2007) ถึงขั้วความต่อเนื่องของธุรกิจ
      1. เมื่อเกิดการสไตร๊คภัยพิบัติ, คุณไม่สามารถที่จะสื่อสารกับเหยื่อภัยพิบัติได้ตลอดเวลา
      2. จงทำสัญญาแบบ 24/7 กับหุ้นส่วน,พนักงาน,ลูกค้า,ผู้รับเหมา และนักลงทุน
      3. จงอยู่ในทีทำงานสารสนเทศในการปฏิบัติการฟื้นฟู และต้องดำเนินการให้ต่อเนื่องเท่าที่ทำได้
      4. สร้างความมั่นใจว่าพนักงานจะได้รับเงินเดือนและผลประโยชน์เกื้อกูล ให้ผู้สั่งการเหตุฉุกเฉินมีอำนาจหน้าที่ในการจ่ายค่าอุปกรณ์, ห้องพักโรงแรม และบริการที่ปรึกษาเท่าที่จำเป็น
      5. จัดทำเอกสารทุกอย่างได้แก่ ค่าเสียหาย  เพื่อขอค่าประกันความเสียหายจากรัฐ
      6. ใช้คนเดียวสื่อสาร บุคคากรควรอ้างถึงคำถามทุกคำถามแก่โฆษก หลีกเลี่ยงการใช้นโยบายที่กำกวม  มีอารมณ์ที่ขบขันบ้าง
      7. ออกแบบปรึกษาทางจิตวิทยา และทำให้คนใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบ
      8. บอกข่าวกิจกรรมและความคืบหน้าเพื่อทันเหตุการณ์แก่ผู้ถือหุ้นสามครั้งต่อวัน
      9. ทำให้มั่นใจว่าภัยพิบัติสิ้นสุดก่อนที่จะประกาศความสำเร็จ จงพิจาณาว่าการทดสอบแนวโน้มอนาคตเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งต่างๆ อาจเกิดขึ้นอีก ควรจะวางแผนที่ผูกติดกับสิ่งที่จะกลับมาเกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง
     10. ประเมินเหตุการณ์ที่การช่วยเหลือตกหล่น  กำหนดความโปร่งใส ให้รางวัลแก่ผู้สมควรได้รับ
ปัจจุบัน นี้ สิ่งที่เกี่ยวกับการรวบรวมเอกสารทุกชิ้นทั้งหมดเข้าด้วยกัน   เรากำลังอยู่ในเวลาที่มีข้อมูลข่าวสารมากขึ้นและเพียงพอในหนึ่งวันมากกว่า ครั้งก่อนที่คอยเป็นปี  เมื่อองค์การมีปัญหายุ่งยากในการระบุทางแก้ปัญหาวิกฤติ ก็ไม่ลังเลใจในการใช้มันสมองที่ดีที่สุดร่วมกัน (ทั้งภายในและภายนอกบริษัทและอุตสาหกรรม)  เพื่อที่จะช่วยกันแก้ปัญหา   ในฐานะองค์การหนึ่ง  ความรับผิดชอบของคุณได้แก่การใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของ Humpty Dumpty  และขณะเดียวกันเป็นการวางแผนในเชิงรุกและโดยผ่านการจัดการวิกฤติ และการจัดการความเสี่ยง/กลยุทธ์การฟื้นฟูความเสียหายเป็นเพียงกรณีตัวอย่าง ที่เขาทำผิดพลาด - จงทำแบบเชิงรุกในกมวางแผนเพื่อให้องค์กรของคุณอยู่รอดจากความเสียหายที่ไม่ ได้เตรียมการวางแผน/วิกฤติ     ความฉลาดทางปัญญาจะแสดงว่าความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของคุณจะออกมาว่า วิธีการจัดการที่คุณแก้วิกฤติและสิ่งที่คุณเรียนรู้จากการแก้ปัญหาอันเป็น สาเหตุวิกฤติ/ภัยพิบัติ   เมื่อกล่าวถึงผู้นำธุรกิจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา   ข้าพเจ้าได้แบ่งปันทางแก้ปัญหาของข้าพเจ้าสำหรับวิกฤติการรั่วไหลของน้ำมัน คงจะทำให้ภาวะจิตใจดีที่สุดสำหรับบริษัทน้ำมัน,วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย, รัฐบาลแม้แต่สาธารณชนทั่วไป - จงนำทางแก้ปัญหาในห้องประชุมแห่งเดียว  และพัฒนาทางแก้ปัฅญหากับวิกฤตินี้เช่นเดียวกับการปรับปรุงมาตรฐานในกรรมวิธี ปฏิบัติงานเพื่อให้มั่นใจว่าวิกฤติเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง   อย่างไรก็ตามสิ่งนี้เราสามารถใส่คำว่า "ทุก ๆ กลไกต้องร่วมมือกันอีกครั้งหนึ่ง" และทำให้แนวคิดของ Humpty Dumpty เข้มแข็งและดีกว่าเดิมก่อนหน้านี้
         โดย สรุปภาวะวิกฤตินั้นเกิดขึ้นเกือบทั้งโลก  การดูแลสิ่งแวดล้อมโลกควรหันกลับมาเอาใจใส่ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในลักษณะ ของการสร้างความสมดุลย์ในสิ่งแวดล้อมโลก  เช่นการตัดไม้ทำลายป่านั้นหากมีมากเกินไปก็สร้างปัญหาน้ำท่วม , การมีโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยควันพิษไปสู่ชั้นบรรยากาศก็จะทำให้เกิดเพดาน โหว่ในชั้นบรรยากาศ, และนำไปสู่ภาวะโลกร้อนมีผลทำให้ธารน้ำแข็งละลายตัว, การขุดแก๊ส,น้ำมันและขุดทราย เพื่อการก่อสร้างนั้นก็ต้องรู้ว่าหากทำมากเกินไปจะถึงขีดอันตรายหรือไม่  หรือบางประเทศใช้การเจาะแกนโลก หรืออุโมงค์ลึกเข้าไปอาจทำลายเปลือกโลกอย่างมาก  เป็นเหตุให้เกิดวิกฤติจากการทำลายล้างของมนุษย์เรานั่นเอง

  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ