กับดักลัทธิความสมบูรณ์แบบ (perfectionism) โดยนักการเมือง


      ในการบริหารจัดการย่อมมีเหตุปัจจัยที่การทำงานของผู้บริหารนั้นจะทำงาน หรือบริหารให้สำเร็จในลักษณะที่ใช้ความคิดสมบูรณ์แบบโดยมุ่งหวังจากผลงานที่เกินความเป็นจริงนั้นย่อมทำให้คนที่คาดหวังเกินความเป็นจริงจะทำให้สำเร็จได้ทั้งในแง่เวลา และเงื่อนไขของความสำเร็จ ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะมีเหตุปัจจัยหลายประการที่ต้องใช้เวลา และสถานการณ์ที่เอื้อต่อการทำงานให้สำเร็จ  โดยเฉพาะในทางการเมืองซึ่งเราจะเห็นภาพได้อย่างชัดเจน
      1. อดีตผลงานรัฐบาลที่ผ่านมาทำให้ประเทศมีการก่อหนี้สาธารณะเกิดขึ้นมากกว่า 40 % รวมทั้งขาดดุลการค้ารวมแล้วประมาณ 3 ล้าน ๆบาทแต่ก็บอกว่ารัฐบาลชุดใหม่ห้ามกู้เกินเพดาน แต่การบริหารของชุดเก่าได้สร้างปัญหามาในระดับหนึ่งแล้ว
      2. ราคาสินค้าแพง เช่นน้ำมันพืช, ราคาหมู และสินค้าเกือบทุกรายการมาจากราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่รัฐบาลชุดใหม่ขอขึ้นค่าแรง 300 บาท เพื่อใ้ห้แรงงานมีชีวิตอยู่ได้ แต่ก็มีพ่อค้านายทุนก็ออกมาต่อต้านค่าแรง  ซึ่งเรื่องนี้คือการช่วยคนไทยในชาติให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทำให้ภาคธุรกิจได้ัโอกาสพัฒนาธุรกิจให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
      3. ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในแถบยุโรป และอเมริกามีปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมาก และก่อให้เกิดหนี้สาธารณะค่อนข้างมาก 
      4. กับดักในด้านความสมบูรณ์แบบนั้น ทำให้รัฐบาลชุดใหม่เจอโจทย์ค่อนข้างหนัก ในขณะที่รัฐบาลชุดเก่ามีทำโจทย์ให้เป็นปัญหาคาราคาซังกับรัฐบาลใหม่  หากมีการมอบหมายงานที่ไม่มีภาระหนี้สินของรัฐบาลเก่าแล้ว รัฐบาลชุดใหม่คงต้องไม่เหนื่อยยาก หรืออยู่ในภาวะหืดขึ้นคอ แต่อย่างไรก็ดี  เราก็เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่หากมีความเป็นมืออาชีพก็อาจแก้ปัญหาได้ โดยยึุดหลักเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส โดยเฉพาะการเน้นการท่องเที่ยวในเอเชีย โดยสร้างพันธมิตรร่วมกับประเทศอื่น ๆ เพื่อให้เงินทุนหลั่งไหลเข้าประเทศ และส่งเสริมการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ เช่นการสร้างเมืองใหม่, การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างครบวงจรเช่นมีสายรถไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว ฯลฯ
      5. หากรัฐบาลเก่าโยนปัญหามา 50 % ก็เท่ากับรัฐบาลชุดใหม่ต้องหาทางแก้ไขปรับปรุงให้ดีถึง 130 % เพราะการบริหารให้ได้ 100 % ก็ยากพอแล้ว  ดังนั้นบุคคลในสังคมไม่ควรบ้าจี้กับการเร่งรัดให้รัฐบาลทำการอย่างรวดเร็วและได้ผลดีทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่ไม่ใ่ช่ซุปเปอร์แมนที่จะแก้ปัญหาได้รวดเร็ว  เพียงแต่หากสถานการณ์ที่มีการพลิกโอกาสเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเหนื่อยทีเดียว เพื่อให้ภาพพจน์รัฐบาลนี้มีภาพพจน์ที่ดี แต่อย่างไรก็ดีประชาชนก็มีความเชื่อถือ และสนับสนุนเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว
     6. เพียงแต่สถานการณ์บ้านเมืองมีลักษณะค่อย ๆ ดีขึ้น และเศรษฐกิจมีลักษณะบรรเทาเบาบางโดยที่ฝ่ายค้านได้สร้างปัญหามาเพียงพอแล้ว ควรให้โอกาสรัฐบาลใหม่ได้แก้ไขหรือปรับปรุงประเทศให้ดี ก็จะทำให้ประเทศมีโอกาสแก้วิกฤติของประเทศเช่นความขัดแย้ง หรือปัญหาเศรษฐกิจ โดยต้องมีความจริงใจ เพราะการปรบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังแน่นอน
     7. ทฤษฎีความขัดแย้ง และแรงดึงแรงดันทางการเมืองนั้น ไม่ควรที่รัฐบาลชุดใหนก็ตามหากไม่จริงใจในการแก้ปัญหาก็จะเป็นลักษณะการวางยาทางการเมือง และวางปัญหาให้รัฐบาลชุดใหม่มาแก้ปัญหา  ทำให้ระดับของประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาโจทย์มีลักษณะไม่เท่าเทียมกัน ในขณะที่รัฐบาลชุดเก่ามีตัวช่วยมากมาย และมีบุคลากรที่มีความรู้ดี แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้นการตีรวนและคาดหวังเกินความเป็นจริงในลักษณะสร้างวาทะกรรมเกินข้อเท็จจริง ย่อมแสดงให้เห็นถึงจิตใจนั้นมีสปริตของความเป็นนักการเมืองที่ดีหรือไม่
        สรุป กับดักของการคาดหวังเกินความจริง และเกิดจากปัญหาที่สร้างสมขึ้นมา ย่อมเท่ากับฝ่ายปรปักษ์มุ่งทำลายระบบพรรคการเมืองหรือรัฐบาล มากกว่าจะมีความจริงใจต่อการแก้ปัญหาร่วมกัน และสร้างสรรค์ประเทศชาติในลักษณะยินยอมให้มีการปรองดองอย่างแท้จริง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

108 คำคมขงเบ้ง คำคมสอนใจ จากขงเบ้ง

ตัวแบบงบประมาณผูกพัน (Beyond Budgeting) ตอนที่หนึ่ง