การเริ่มต้นกับนโยบายรัฐบาลยิ่งลักษณ์

 

        นโยบายของรัฐบาลในชุดยิ่งลักษณ์มีลักษณะเนื้อหาคลอบคลุมด้านเศรษฐกิจ, สังคม,การเมือง และการศึกษา  นโยบายดังกล่าวมีลักษณะเชื่อมต่อเหมือนรถไฟที่มีขบวนวิ่งไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะหากจับจุดปัญหาประเทศไทยคือปัญหาเศรษฐกิจต้องแก้ไขเป็นลำดับแรก เพราะการที่ทำให้ประชาชนมีรายได้, ลดรายจ่าย, พร้อมกับสร้างโอกาสให้กับประชาชนที่เป็นระดับรากหญ้าของสังคมที่เป็นพื้นฐานของประเทศ  การที่ประเทศไทยจะมั่นคงหรือก้าวหน้าในด้านใด ๆ ก็แล้วแต่ล้วนมาจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจเพราะปัญหาของคนแต่ละระดับมีปัญหาไม่เหมือนกัน คนจนเน้นปากท้อง, มนุษย์เงินเดือนเน้นความมั่นคงของรายได้, คนชั้นกลางเน้นโอกาสทางความก้าวหน้า, และคนรวยเน้นความมั่นคงในความร่ำรวย, ส่วนอำมาตย์ต้องการหน้าตาทางสังคม ทุกระดับล้วนแต่มีต้นทุนในทางสังคมแตกต่างกัน และความคาดหวังที่มีต่อชีวิตต่างกัน  ดังนั้นการวางระบบที่สร้างความพึงพอใจแก่ประชาชนแต่ละชนชั้น และแต่ละฝ่ายให้มีความกลมกลืนและยอมรับซึ่งกันและกันเป็นสิ่งท้าทายต่อการบริหารประเทศ   ดังนั้นรัฐบาลควรมีหน่วยงานกำหนดเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Government Unit) ในการป้องกันปัญหาที่เป็นปัญหาเร่งด่วน และการกำหนดยุทธศาสตร์ในการสร้างโอกาสให้แก่ประเทศ  กลยุทธ์ในต่างประเทศเป็นลักษณะการแข่งขันเพื่อความได้เปรียบเชิงแข่งขัน (competitive advantage)  กลยุทธ์ในประเทศเป็นลักษณะการสร้างความเข้าใจ หรือการปรองดอง   ปัญหาคือฝ่ายตุลาการไม่ควรบ้าจี้ไปกับการร้องเรียนสัพเพเหระ ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ทำลายความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทย ซึ่งความสัมพันธ์คุ้นเคยในหมู่อำมาตย์และขุนนางข้าราชการกลายเป็นปัญหาประเทศไทยที่ทำให้เกิดการตัดสินคดีเชิงสองมาตรฐาน  ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องขอร้องให้ฝ่ายตุลาการควรคำนึงถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจแก่ประชาชน ไม่ใช่เน้นความมั่นคงของคนกลุ่มน้อย  ควรคำนึงถึงคนกลุ่มใหญ่ หรือความต้องการของประชาชนโดยส่วนรวม  หากฝ่ายศาลหรือตุลาการไม่บ้าจึ้แล้ว  ปัญหาประเทศไทยก็จะอยู่ในความสงบเรียบร้อย ดังนั้นควรมองปัญหาที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สำคัญไม่ควรเอาเปัญหาเล็กน้อย หรือปัญหาขี้ปะติ๋วมาทำลายบ้านเมือง  และต้องดำเนินไปด้วยความสุจริตยุติธรรม  ไม่เช่นนั้นศาลหรือตุลาการอาจกลายเป็นโจทย์ปัญหาบ้านเมืองไปก็ได้  เพราะไปเชื่อข่าวลือหรือการให้ข่าวเท็จหรือข่าวใส่ร้ายไม่มีมูลความจริง เป็นลักษณะปั้นข่าวให้เหมือนจริง     ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่ควรเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าของประเทศดังนี้
            1. แก้ปัญหาเศรษฐกิจ สร้างโอกาสทางธุรกิจทุกรูปแบบ และการลงทุนภาครัฐที่ทำให้ประเทศมีรายได้อย่างมหาศาล เช่นการท่องเที่ยว, การสร้างสนามบินแห่งใหม่เพิ่ม, การสร้างรถไฟเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว, การพัฒนานิคมอุตสาหกรรม, การขึ้นเงินเดือนหรือค่าจ้างใหม่ ฯลฯ
            2. ปัญหาการเมือง เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เข้าที่เข้าทางโดยให้ส่งเสริมรัฐธรรมนูญที่ดีและเป็นรัฐธรรมนูญที่คนส่วนใหญ่ในประเทศยอมรับ ในลักษณะการลงมติยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะถือว่าการเมืองประชาธิปไตยเป็นการเมืองของประชาชนโดยประชาชนเพื่อประชาชน  ควรมีหน่วยงานแก้ปัญหาเร่งด่วนกรณีเกิดปัญหาการขัดแย้งของคนในชาติ โดยใช้ระบบการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างกว้างขวาง ให้มีกิจกรรมชุมชนทั่วประเทศในการระดมความคิดเห็นเพื่อการพัฒนาจังหวัด, อำเภอ,ชุมชน โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมากรวมทั้งนักวิชาการต่าง ๆ ให้นำมา
ช่วยงาน
            3. ปัญหาการศึกษา ต้องเร่งแก้ไขให้เน้นประชาธิปไตยไปในทุกสถานศึกษาในด้านความตื่นตัว การสร้างวัฒนธรรมการเมืองแบบประชาธิปไตย เพราะปัจจุบันสถานศึกษากลายเป็นการอ่อนด้อยในเรื่องประชาธิปไตยนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ และระบบราชการทั้งระบบหากไม่รีบแก้ไขจะกลายเป็นปัญหาวงจรอุบาทว์อีกต่อไป