การออกกฎหมายเพื่อประชาธิปไตย


        
         กฎหมายที่ดีที่บัญญัติโดยวิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตยควรปรับปรุงแก้ไขให้ประชาธิปไตยมีความราบรื่น เพราะเป็นสิ่งที่คนไทยต้องการ เพราะถนนประชาธิปไตยเป็นถนนที่ทุกคนต้องสามารถใช้สิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคและภราดรภาพในการใช้ถนนสายนี้ร่วมกัน กฎหมายที่ดีไม่ควรเป็นเครื่องกั้นหรือขัดขวางอิสรภาพของคนในชาติ ทำให้ประชาธิปไตยของไทยไม่มั่นคง และมิสมควรที่คนกลุ่มน้อยเขียนกฎหมายโดยบังคับใช้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศโดยไม่รับฟังเสียงของประชาชนทั้งประเทศ  ดังนั้นผู้เขียนจึงขอนำเสนอการออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกฝ่าย ได้แก่
           1. ยกเลิกกฎหมายที่เป็นเผด็จการจากการทำรัฐประหาร สำหรับรัฐธรรมนูญปี 2550 ให้กลับมาใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 และออกกฎหมายป้องกันรัฐประหาร โดยให้รัฐบาลกุมงบประมาณมิให้เบิกจ่ายเพื่อการรัฐประหาร ทำให้ทหารที่จะยึดอำนาจจากประชาชนไม่มีเงินหรือค่าจ้าง
           2. กฎหมายที่จัดตั้งให้หน่วยงานทุกแห่งมีความเป็นประชาธิปไตย โดยทุกองค์กรควรมีวิถีทางประชาธิปไตยทุกองค์กร เช่นการนำระบบคุณธรรมมาใช้กับทุกองค์กร เช่นโอกาสการจ้างงานที่เป็นธรรม หากองค์กรใดที่ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบราชการ และรัฐวิสาหกิจมีแนวโน้มต้องแก้ไขอย่างมากเพื่อให้เป็นระบบการมีส่วนร่วมโดยประชาชน
           3. องค์กรอิสระ และผู้พิพากษามาจากการเลือกตั้ง และมีคณะลูกขุนคอยตรวจสอบการตัดสินคดีความเพื่อให้เิกิดความยุติธรรม
           4. กฎหมายรับฟังข้อเสนอแนะว่าหากองค์กรใดที่มีการปฏิบัติไม่ยุติธรรม หรือมีการเอารัดเอาเปรียบบุคลากรก็ให้นำเสนอมาปรับปรุงแก้ไข และเป็นหน้าที่ที่ควรไปแก้ไขหากข้อร้องเรียนหรือข้อเสนอแนะนั้นมีเหตุผลควรรับฟัง
           5. กฎหมายเกี่ยวกับการลงมติมหาชน  เช่นการแก้ไขตัดทอนเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ, การคุกคามจากอำนาจที่ไม่ชอบธรรม สุดท้ายก็ใช้มติมหาชน  เพื่อทำให้รัฐบาลต้องทำหน้าที่ให้กับประชาชนโดยส่วนร่วมอย่างดีที่สุด
           6. กฎหมายจัดตั้งให้มีการพัฒนาประชาธิปไตย เพื่อให้สถาบันการเมืองมีความเข้มแข็ง หากสถาบันการเมืองไม่เข้มแข็งหรืออ่อนแอ ย่อมมีผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนในภาพรวม
           7. กฎหมายที่ส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตยสำหรับบุคคลระดับผู้นำ เช่นต้องผ่านกระบวนการหล่อหลอมประชาธิปไตยเสียก่อนจึงจะมีสิทธิที่จะเป็นผู้นำองค์การ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารภาครัฐ,รัฐวิสาหกิจตั้งแต่ระดับหัวหน้ากอง,ผู้อำนวยการ,รองและอธิบดีกรม, และปลัดกระทรวงทุกคน และแม้แต่นักการเมืองก็ต้องพัฒนาจิตสำนึกประชาธิปไตยหรือจิตวิญญาณประชาธิปไตย
           8. กฎหมายที่ไม่นำคนมาติดคุกโดยยังไม่มีความผิด และยังไม่ได้ตัดสินคดีจนถึงที่สุด และไม่มีการขังดองเป็นระยะยาวนาน หากการตัดสินคดีโดยจับกุมคุมขังยังไม่ได้ตัดสินนั้น ให้ผู้ตัดสินหรือผู้เกี่ยวข้องต้องได้รับโทษทัณฑ์เช่นกัน
           สิ่งนี้เป็นเพียงข้อเสนอแนะ หากแต่ผู้มีอำนาจอาจนำไปพิจารณา เพื่อใ้ห้กฎหมายนั้นมีความยุติธรรม เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เพื่อปกป้องความมั่นคงของประชาชนไม่ให้ถนนประชาธิปไตยถูกสกัดขวางกั้นและไม่เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตย และส่งเสริมนักวิชาการให้ชี้ทางสว่างถนนประชาธิปไตยเพื่อความยั่งยืน และสื่อต่าง ๆควรส่งเสริมประชาธิปไตยในการเปิดรับฟังคนทุกกลุ่ม


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)