การจัดการคัดสรรคนเก่ง (Talent Management)
การจัดการเพื่อได้คนเก่งมาทำงานนั้น สิ่งสำคัญที่ไม่แพ้กันคือต้องเป็นคนที่ทำได้ดีมีความสามารถและทำประโยชน์ให้กับองค์การโดยส่วนรวม บุคลากรต่าง ๆ นั้นมีมากแต่ผู้ที่มีวุฒิสามารถนั้นไม่ได้มีมาก ในสังคมที่นิยมระบบอุปถัมภ์บางครั้งก็ละเลยหรือไม่ให้ความสนใจในเรื่องการรับคนเก่งมาทำงาน อาจเป็นเพราะว่ากลัวคนเก่ง หรือคนที่เหนือกว่าทำให้ผู้บริหารรู้สึกว่าตนเองด้อยลง จึงพยายามรับคนที่ไม่จำเป็นต้องเก่งแต่ขอให้ทำงานแบบรับใช้หรือประเภทใช่ครับ,ขอรับเจ้าค่ะ หรือนิยมคนที่ประจบเอาใจ ไม่ชอบคนมีความคิดเห็นต่างกันตนมาทำงาน เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่พวกเดียวกัน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะความเห็นต่างนำไปสู่การต่อยอดที่ดีกว่า และการทำจิตใจให้กว้างขวางในการยอมรับความแตกต่างเป็นเรื่องที่นำไปสู่สังคมประชาธิปไตย การใช้ระบบอุปถัมภ์มากเกินไปอาจนำไปสู่สังคมแบบเผด็จการได้ เพราะมนุษย์หลงและยึดมั่นในตัวบุคคล และไม่นิยมคนมีผลงานก็เป็นได้ ทำให้องค์การหรือประเทศชาติไม่เจริญรุ่งเรือง หากผู้บริหารองค์การไม่ได้ตระหนักเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นคนดีอาจเป็นคนที่ทำตามใจผู้ใหญ่ ไม่กล้าแสดงความเห็นเพราะเกรงว่าจะไปกระทบต่อความรู้สึกหรือไม่พอใจ ทำให้สังคมไทยจึงเป็นสังคมเกรงใจ ไม่กล้าทักท้วง หรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อองค์การ ดังนั้นนักบริหารยุคใหม่ต้องมี่จิตใจแบบกว้างขวาง, ยอมรับความคิดเห็นหากเป็นสิ่งที่ดีต่อองค์การ และต้องถือว่าบุคคลที่คล้อยตามนั้นไม่ได้ช่วยให้องค์การมีวิถีทางที่ดีกว่า และก้าวหน้ามากกว่า ดังนั้นสังคมแบบเอออ่อห่อหมก (Group Think) จึงเป็นสังคมที่ไม่ส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตย หรือการมีส่วนร่วมของบุคลากรในสถานที่ทำงาน และอาจเลยเถิดถึงการไม่ยอมรับการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งประเทศก็เป็นได้
การจัดการคนเก่งหมายถึง "การจัดการกับความสามารถ,สมรรถนะ,และอำนาจแฝงของบุคลากรในองค์การ แนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดเพียงแต่สรรหาคนที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสมแต่ยังขยายขอบเขตในการสำรวจคุณลักษณะที่มองไม่เห็นหรือซ่อนเร้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การว่าจ้างคนเก่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมอาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับองค์การในทุกวันนี้ และการรักษาคนเก่งกลับเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด
การจัดการคนเก่งในองค์การไม่ได้จำกัดเพียงแต่การดึงดูดบุคลากรที่ดีที่สุดจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ยังเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับการเสาะแสวงหา,การว่าจ้าง,การพัฒนา,การรักษาและการเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งในขณะที่มีการประชุมเกี่ยวกับความต้องการบุคลากรในองค์การทันทีทันใด หากองค์การต้องการคนเก่งที่ดีที่สุดของคู่แข่งขันในการทำงานกับองค์การ การดึงดูด และการให้ข้อเสนอบางอย่างยังห่างไกลจากจินตนาการในการเข้ามาและร่วมกันรวมไปถึงการผูกติดองค์การ ลำพังการจ้างบุคลากรไม่ได้แก้ปัญหาในวัตถุประสงค์การทำงานให้สำเร้จจากตัวเขาเอง นั่นคืองานที่สำคัญยิ่งใหญ่ทีเดียว ดังนั้นการจัดการคนเก่งจึงเป็นกระบวนการที่ขนคนขึ้นโดยไม่เพียงแต่การดูแลคนเข้ามาทำงาน แต่ยังดูแลถึงการที่คนออกจากองค์การด้วย
พวกเรารู้ว่าบุคลากรต่างปรารถนาความก้าวหน้าจากองค์การ เพื่อบรรลุเป้าหมายความสำเร็จขององค์การ แต่สิ่งสำคัญยิ่่งยวดก็คือการตระหนักว่าคนเก่งของบริษัทสามารถทำให้องค์การของคุณประสบความสำเร็จได้ การดึงดูดพวกเขามาทำงานเพื่อองค์การจะต้องบรรจุคนให้เหมาะสมกับสถานที่ที่เหมาะสมอย่างมีกลยุทธ์ในองค์การเป็นขั้นตอนที่ก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นจึงไม่ลืมว่าการบรรจุผู้สมัครงานในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมสร้างปัญหาสารพันในเรื่องคุณสมบัติ, ทักษะ,ความสามารถ,และสมรรถนะของบุคคลคนนั้น บุคคลที่ทำการสรรหาหรือคัดเลือกมีความฉลาดมากน้อยเพียงใดในการบรรจุบุคคลในสถานที่ผิดซึ่งทำให้คุณประสบปัญหาความล้มเหลว กระบวนการจัดการคนเก่งไม่สามารถบรรลุความสมบุรณ์ได้หากคุณไม่สามารถบรรจุคนที่เก่งที่สุดในองค์การในสถานที่หรือตำแหน่งที่เขาควรเข้าไปทำ
บางองค์การอาจแสวงหากระบวนการทั้งหมดอย่างไร้จริยธรรมมากที่สุด (คนที่ไร้ฝีมือในการทำงาน) แต่การแข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่านเพื่อความอยู่รอดจึงเป็นคำถามที่สำคัญ ดังนั้นต้องคิดใคร่ครวญทั้งหมดเป็นอย่างดี ทุกองค์การจำเป็นต้องได้คนเก่งเพื่อความอยู่รอดและเพื่อเบียดแซงคู่แข่งไปอยู่ข้างหน้า การจัดการคนเก่งจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์การและองค์การไปสู่ระดับ่ที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้เกินความจริงได้ว่าการจัดการคนเก่งๆเป็นสงครามไล่ล่าคนเก่งที่ไม่มี่วันสิ้นสุดเลย
สำหรับค่านิยมไทยในการใช้หลักการที่ว่าค่าของคนอยู่ที่คนของข้า หรือค่าของคนอยู่ที่คนของใคร จึงขาดความกระตือรือร้น หรือไม่นำพาที่จะใช้คนเก่งมาทำงาน เพียงแต่ใช้คนพอที่จะเก่ง แต่มิใช่คนที่เก่งที่สุดมาบรรจุให้เหมาะสมกับสถานที่ทำงาน ดังนั้นหากองค์การมีการขัดแย้งหรือมีการไปเหยียบเส้นสายของคนใดคนหนึ่ง ผู้บริหารก็อาจลงโทษคนที่คิดว่าไม่่ใช่พวกของตนเอง ทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติในการทำงาน และทำให้คนเก่งเกิดความท้อแท้และขาดแรงจูงใจ ก็อาจปรับตัวในลักษณะอยูวัน ๆ หรือลาออกไปทำงานที่อื่น ทำให้องค์การขาดแคลนคนเก่ง และไม่สามารถสร้างชื่อเสียงหรือภาพพจน์ที่ตีต่อองค์การได้ และคิดว่าคนที่เป็นพวกกันเป็นคนดีแต่อาจไม่มีฝีมือหรือไม่เก่งก็จะทำให้องค์การสูญเสียโอกาสในการพัฒนา เพราะบางครั้งผู้บริหารสนใจแต่เรื่องประโยชน์ส่วนตัวจนละเลยต่อผลประโยชน์ต่อองค์การ และเท่ากับละเลยผลประโยชน์ของชาติไปด้วย
การจัดการคนเก่งหมายถึง "การจัดการกับความสามารถ,สมรรถนะ,และอำนาจแฝงของบุคลากรในองค์การ แนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดเพียงแต่สรรหาคนที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสมแต่ยังขยายขอบเขตในการสำรวจคุณลักษณะที่มองไม่เห็นหรือซ่อนเร้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การว่าจ้างคนเก่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมอาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับองค์การในทุกวันนี้ และการรักษาคนเก่งกลับเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด
การจัดการคนเก่งในองค์การไม่ได้จำกัดเพียงแต่การดึงดูดบุคลากรที่ดีที่สุดจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ยังเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับการเสาะแสวงหา,การว่าจ้าง,การพัฒนา,การรักษาและการเลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งในขณะที่มีการประชุมเกี่ยวกับความต้องการบุคลากรในองค์การทันทีทันใด หากองค์การต้องการคนเก่งที่ดีที่สุดของคู่แข่งขันในการทำงานกับองค์การ การดึงดูด และการให้ข้อเสนอบางอย่างยังห่างไกลจากจินตนาการในการเข้ามาและร่วมกันรวมไปถึงการผูกติดองค์การ ลำพังการจ้างบุคลากรไม่ได้แก้ปัญหาในวัตถุประสงค์การทำงานให้สำเร้จจากตัวเขาเอง นั่นคืองานที่สำคัญยิ่งใหญ่ทีเดียว ดังนั้นการจัดการคนเก่งจึงเป็นกระบวนการที่ขนคนขึ้นโดยไม่เพียงแต่การดูแลคนเข้ามาทำงาน แต่ยังดูแลถึงการที่คนออกจากองค์การด้วย
พวกเรารู้ว่าบุคลากรต่างปรารถนาความก้าวหน้าจากองค์การ เพื่อบรรลุเป้าหมายความสำเร็จขององค์การ แต่สิ่งสำคัญยิ่่งยวดก็คือการตระหนักว่าคนเก่งของบริษัทสามารถทำให้องค์การของคุณประสบความสำเร็จได้ การดึงดูดพวกเขามาทำงานเพื่อองค์การจะต้องบรรจุคนให้เหมาะสมกับสถานที่ที่เหมาะสมอย่างมีกลยุทธ์ในองค์การเป็นขั้นตอนที่ก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นจึงไม่ลืมว่าการบรรจุผู้สมัครงานในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมสร้างปัญหาสารพันในเรื่องคุณสมบัติ, ทักษะ,ความสามารถ,และสมรรถนะของบุคคลคนนั้น บุคคลที่ทำการสรรหาหรือคัดเลือกมีความฉลาดมากน้อยเพียงใดในการบรรจุบุคคลในสถานที่ผิดซึ่งทำให้คุณประสบปัญหาความล้มเหลว กระบวนการจัดการคนเก่งไม่สามารถบรรลุความสมบุรณ์ได้หากคุณไม่สามารถบรรจุคนที่เก่งที่สุดในองค์การในสถานที่หรือตำแหน่งที่เขาควรเข้าไปทำ
บางองค์การอาจแสวงหากระบวนการทั้งหมดอย่างไร้จริยธรรมมากที่สุด (คนที่ไร้ฝีมือในการทำงาน) แต่การแข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่านเพื่อความอยู่รอดจึงเป็นคำถามที่สำคัญ ดังนั้นต้องคิดใคร่ครวญทั้งหมดเป็นอย่างดี ทุกองค์การจำเป็นต้องได้คนเก่งเพื่อความอยู่รอดและเพื่อเบียดแซงคู่แข่งไปอยู่ข้างหน้า การจัดการคนเก่งจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์การและองค์การไปสู่ระดับ่ที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้เกินความจริงได้ว่าการจัดการคนเก่งๆเป็นสงครามไล่ล่าคนเก่งที่ไม่มี่วันสิ้นสุดเลย
สำหรับค่านิยมไทยในการใช้หลักการที่ว่าค่าของคนอยู่ที่คนของข้า หรือค่าของคนอยู่ที่คนของใคร จึงขาดความกระตือรือร้น หรือไม่นำพาที่จะใช้คนเก่งมาทำงาน เพียงแต่ใช้คนพอที่จะเก่ง แต่มิใช่คนที่เก่งที่สุดมาบรรจุให้เหมาะสมกับสถานที่ทำงาน ดังนั้นหากองค์การมีการขัดแย้งหรือมีการไปเหยียบเส้นสายของคนใดคนหนึ่ง ผู้บริหารก็อาจลงโทษคนที่คิดว่าไม่่ใช่พวกของตนเอง ทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติในการทำงาน และทำให้คนเก่งเกิดความท้อแท้และขาดแรงจูงใจ ก็อาจปรับตัวในลักษณะอยูวัน ๆ หรือลาออกไปทำงานที่อื่น ทำให้องค์การขาดแคลนคนเก่ง และไม่สามารถสร้างชื่อเสียงหรือภาพพจน์ที่ตีต่อองค์การได้ และคิดว่าคนที่เป็นพวกกันเป็นคนดีแต่อาจไม่มีฝีมือหรือไม่เก่งก็จะทำให้องค์การสูญเสียโอกาสในการพัฒนา เพราะบางครั้งผู้บริหารสนใจแต่เรื่องประโยชน์ส่วนตัวจนละเลยต่อผลประโยชน์ต่อองค์การ และเท่ากับละเลยผลประโยชน์ของชาติไปด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น