กุญแจสำคัญในการเข้าใจเผด็จการกัดดาฟี

เรียบเรียงโดย จอห์น คลาวน์

           มุมมาร์ กัดดาฟี ประสบปัญหากับการท้าทายอำนาจเผด็จการของเขา โดยที่กองกำลังนาโต้ทำการถล่มด้วยระเบิดเหมือนห่าฝนที่เมืองตริโปลี   ในขณะที่นักเผด็จการของซีเรียชื่อ บาชาร์-อัซซาด ได้สังหารชีวิตประชาชนมากกว่า 1,000 คนในการปราบปรามผู้ต่อต้านคัดค้าน และประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ได้ปฏิเสฐในการหาทางลดความรุนแรงจากความไม่สงบมาเป็นเวลาหลายเดือนเกือบจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง  คำถามก็คือว่าทำไมบุคคลเหล่านี้จึงต่อสู้อย่างหนักหน่วงเพื่อรักษาอำนาจ?  ทำไมจึงไม่ถอนกำลังไปยังซาอุดิอารเบีย หรือเวเนซูเอล่าและเลิกติดยึดกับความร่ำรวยก่อนที่จะถูกสังหารชีวิตดังเช่นที่เกิดขึ้นกับประธานาธิบดี ฮอสนี่ มูบารัค
           ความพยายามในการวิเคราะห์ความหมายเกี่ยวกับลักษณะเด่นทางจิตวิทยาของบุคคลที่เป็นนักเผด็จการ (dictatorship) ยังคงมีตัวอย่างให้เห็นได้ไม่ยาก  แต่ในการบันทึกสาธารณะของนักเผด็จการจำนวนมาก ได้แก่สตาลิน, เหมา, ซัดดัม ฮุซเซน และกัดดาฟี  สิ่งหนึ่งที่สามารถเห็นรูปแบบที่กำหนดบุคคลิกลักษณะผู้นำแบบเผด็จการ  อย่างน้อยที่สุดต้้งแต่สำนักงานบริการยุทธศาสตร์ หรือเรียกว่า CIA
ได้รับมอบหมายให้ทำแฟ้มลับที่เรียกว่า "การวิเคราะห์จิตวิทยาของอดอล์ฟ ฮิตเล่อร์"  ซึ่งได้ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1943    นักจิตวิทยาได้แสวงหาคำอธิบายเกี่ยวกับจิตใจของผู้นิยมอำนาจ (authoritarian mind)
ผลงานวิจัยใหม่ ๆ ได้นำให้เราได้มีความเข้าใจใกล้ชิดว่าผู้นำทำไมจึงเป็นเผด็จการ   อย่างน้อยที่สุดมีคำอธิบายพฤติกรรมของนักเผด็จการอยู่สามประการดังนี้

1. นักเผด็จการเป็นโรคจิตหวาดระแวง (psychopaths)
          นี่คือตัวอย่างที่ง่ายที่สุด และเป็นคำอธิบายทางจิตวิทยาของนักเผด็จการที่มีเสน่ห์ดึงดูด เช่นการให้การอุปถัมภ์ (helpful)  อาการทางจิตหมายถึงการวิเคราะห์และคู่มือทางสถิติของสภาพไร้ระเบียบทางจิตภายใต้คำที่เรียกว่า "ความไร้ระเบียบทางบุคคลิกที่ต่อต้านสังคม" (antisocial personality disorder) ลักษณะเด่นของมันคือสิ่งที่อยู่ท่ามกลางคนอื่น ๆ เช่นมีกระทำที่ซ้ำซากที่มีพื้นฐานเน้นการจับกุมคุมขัง, ขอบเสแสร้ง, ขาดความสำนึกความผิด,มีแรงกระตุ้นและขาดความเห็นอกเห็นใจ (remorse)
          เป็นการยากที่คิดว่านักเผด็จการไม่ได้แสดงความประพฤติต่างๆ เหล่านี้  ตัวอย่างเช่นนักเผด็จการไม่เพียงแต่โกหกคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นสาระสำคัญเท่านั้นแต่ยังคงโกหกกับคนเหล่านั้นด้วย   หากเป็นเช่นสตาลินเรียกว่าเป็นคนทรยศ มันไม่เพียงแต่เป็นจิตใจของคนอื่น ๆที่กำลังถูกบังคับกดขี่  ซึ่งเขียนโดยนักประวัติศาสตร์ออกซ์ฟอร์ดที่ชื่อบริการโรเบอร์ตในบรรณานุกรมของเผด็จการ   ในทำนองเดียวกัน กัดดาฟีดูเหมือนจะเชื่อว่าไม่เพียงแต่การต่อต้านคัดค้านการปกครองของเขาเท่กัการต่อต้านในความอยู่รอดของลิเบีย แต่สิ่งนั้น ในฐานะเขาได้กล่าวโดยสรุปหลังจากการลุกฮือต่อต้านเกิดขึ้น  "ประชาชนของข้าพเจ้าทุกคนเป็นของฉัน,  พวกเขายินดีตายเพื่อปกป้องฉัน"
           แต่พวกโรคจิตที่แท้จริง เมื่อคิดถึงนักสังหารคนอย่างต่อเนื่องคือจอห์น เวน เกซี่ ไม่เพียงแต่เขาจะโกหกพกลมและเป็นนักสังหารมนุษย์ที่ไม่มีรอยยิ้ม  แต่เขาดูเหมือนว่าเขาจะอำมหิตไร้ความรู้สึก เกซี่ ยังคงใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อทรมานบุคคลที่เป็นเหยื่อของเขาเป็นเวลาหลายชั่วโมง  และมีการฟื้นฟูหลังจากเหยือของเขาได้ผ่านการลงโทษแล้ว    ก่อนที่จะแสดงความเมตตาของการฆาตกรรมในท้ายที่สุด   นักเผด็จการส่วนมากไม่ได้ดำเนินการอย่างโหดเหี้ยม แต่อย่างน้อยที่สุดไม่ใช่ในตัวบุคคล
         สก๊อต แอทราน เป็นนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ทำการศึกษาผู้ชายที่มีความแข็งแรงรอบโลกเป็นเวลาสองทศวรรษ  เขาได้พูดกับคาเลด เมชชาอัลออฟอามัส, อบับบาคาร์ บาอัสซีเออร์,กลุ่มทหารอาเชียตะวันออกเฉียงใต้ทีเรียกว่ากลุ่มเจมาห์ อิสลามียาห์, ฮาฟิส ซาอีดของ ลัชการ์ อี ไทบา  กลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ดำเนินงานจากประเทศปากีสถาน และวิลเลียม เพียร์ซ อดีตผู้นำของขบวนการเคลื่อนไหวพวกขวาจัดในสหรัฐอเมริกา   ไม่มีบุคคลในรัฐใด ๆ สามารถอธิบารคำว่าเผด็จการได้อย่างถูกต้อง   แต่ทุกคนมีองค์การนำที่มีกล้ามเนื้อใหญ่โตและมักจะมีลีลาผู้นำที่อำมหิต
         ข้อสรุปของแอดรานคือว่าให้กระตุ้นให้มีจริยธรรม, ไม่ใช่ใช้วิธีรุนแรง (sadism) หรือมึความละโมภ เป็นแรงขับของบุคลิกคนที่มีร่ายกายแข็งแรง เช่นฮิตเล่อร์ เขาจะชอบชี้มือ ปฏิเสธความเท่าเทียมของเงินหลายล้านดอลล่าร์ในการจ่ายค่าตอบแทนเพื่อลดชั้นสำหรับกลุ่มเล็กของชาวออสเตรียนซึ่งเป็นชาวยิวในฐานไม่ใช่ยิว   ในทำนองเดียวกัน แอดรันและทีมงานของเขาได้ตีพิมพ์เอกสารอันเป็นหลักฐานกองพะเนินที่การปกครองของอิหรานละเลยต่อข้อเสนอสำคัญของการช่วยเหลือให้เกิดผลสุดท้ายของโปรแกรมนิวเคลียร์ออกจากคุณค่าความศักดิ์สิทธิ์ของความเป็นอิสระที่คนกล้าหาญเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการเกี่ยวกับบุคคล

2. นักเผด็จการเป็นโรคหลงตนเอง
          ผู้นำแบบไม่ใช่เผด็จการจะใช้ลูกน้องโดยเพิ่มอำนาจกับสิ่งที่ต้องการ  นักเผด็จการมักจัดเตรียมการดำรงชีวิตเพื่อว่าไม่มีใครสามารถเล่นบทบาทนี้ได้    "อะไรคือสิ่งที่ทำให้ฉันไม่มากในการมีอาการทางจิตภายในของผู้นำเหล่านี้    ยิ่งกว่านั้นทำอย่างไรอำนาจเบ็ดเสร็จสามารถเปลี่ยนแปลงพวกเขาได้ตลอดเวลา"  กล่าวโดยแฟรงค์ ดิคอตเตอร์ในอีเมลล์ฉบับหนึ่ง  ดิคอตเตอร์เป็นศาสตราจารย์ีที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงและเป็นผู้ประพันธ์เกี่ยวกับ "ประธานเหมาผู้เผชิญอุปสรรคที่ย่ิงใหญ่แห่ง ประวัติศาสตร์ของการทำลายล้างของจีนอย่างมากที่สุด  "เหมาอยู่ในอำนาจเป็นเวลานาน และต่อต้านสิ่งที่เลวร้ายและสิ่งที่เลวร้าย  ในท้ายที่สุดเขาได้อาศัยอยู่ในซอกเล็ก ๆคล้ายรังไหม    นักเผด็จการสูญเสียในความสามารถในการมองพวกที่มีปฏิกิริยาเหล่านั้น และความสัมพันธ์ระหว่างคนอื่น ๆเป็นไปอย่างแท้จริง   ในปี ค.ศ.2003 เอกสารในวารสาร Psychology Review  นักวิจัยสามคนนำโดยนายเดชเช่อร์ คีทเน่อร์ ของมหาวิทยาลัยคาลิฟอร์เนีย เบอร์คเล่ย มองไปที่การเปลี่ยนแปลงอำนาจแบบขั้นบันไปซึ่งเป็นการสร้างทางจิตวิทยาของผู้ที่มีความคิดแบบนี้   เขาพบว่าบุคคลที่ทรงพลังอำนาจเริ่มต้นเห็นโลกล้อมรอบตัวเขาในลักษณะที่เป็นวิถีทางที่เรียบง่ายและอัตโนมัติมากขึ้น     
      แต่มีต้นทุนทางประสาทวิทยาในการเพิกเฉยต่อสัจธรรมที่ล้อมรอบตัวเรา   ดังเช่นในขอบเขตทางประสาทวิทยา   ซึ่งเป็นส่วนเยื่อหุ้มสมอง เป็นที่เก็บอารมณ์ของเรา และเป็นที่ความรู้สึกของเราเกี่ยวกับการควบคุมตนเอง  สามารถหยุดการกระทำหนาที่ได้อย่างแท้จริง หากไม่ได้นำไปใช้ตามปรกติ   กัดดาฟี เกลี่ยคนเป็นร้อยหรือพันของตัวแทนที่ระบุว่าข่มขู่ในอำนาจของเขาและกำจัดเขา   ในสิ่งนี้เขาคล้ายคลึงกับสตาลิน ที่กองพลาธิการความมั่นคงที่เรียกว่า NKVD ได้เคลื่อนย้ายต่อต้านในการปลูกฝังสังคมโซเวียตที่อาจต่อต้านเขา   โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นนำที่เตรียมการปฏิวัติที่มีมาก่อน  จากอำนาจปลายกระบอกปืน นักต่อต้านการวิพากย์วิจารณ์ความจริงใด ๆ   นักเผด็จการเริ่มต้นอาศัยในระบบพาพาลิมบิค   ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวที่เขาเริ่มต้นที่จะส่งเสียงด้วยความบ้าคลั่งในปีถัดมา
        ซัดดัม ฮุสเซนเป็นตัวอย่างทีีดี ตามที่รีนานา บรู้ค นักจิตวิทยาชาววอชิงตันที่เชี่ยวชาญในเรื่องอำนาจแฝงและการครอบงำ    ฮุซเซนปฏิเสธในการหยุดวางอาวุธรวมที่เขามีอยู่ของการทำลายมวลชน  แม้แต่ผู้วางระเบิดที่มีความพร้อมในแนวทางต่อแบกแดด  "นักเผด็จการตั้งใจส่งเสริมจินตนาการของอำนาจส่วนบุคคล  กล่าวโดยบรู๊ค  "พวกเขาเห็นว่าตนเองเป็นวีรบุรุษ" ในเมือความรู้สึกของลัทธิคลั่งวีรบุรุษถูกท้าทาย  เขาก็จะมีอาการหลงตัวเอง

3. นักเผด็จการมักจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือเป็นบุคคลที่ต่ำกว่าธรรมดาที่พัฒนาความไร้ระเบียบทางจิตใจในโอกาสพิเศษของการเข้ายึดครองอำนาจเบ็ดเสร็จ   นักเผด็จการซิมบาบเว, ในคำอธิบายของโรเบอร์ต มูกาเบ  ได้ปรากฎว่าเป็นนักบวชที่มีความสุภาพอ่อนน้อมในฐานะที่เป็นคนหนุ่ม  ในขณะที่ ปีเตอร์ ก๊อดวิน ได้แสดงทัศนะของหนังสือในปี 2010 ที่เฉพาะเจาะจง คือ ความกลัว: โรเบอร์ต มูกาเบ้
และมาตี้ร์ดอม แห่งซิมแบบเว  ผู้สนับสนุนในอดีตกล่าวว่าเมื่อมูกาเบ้เป็นหนุ่ม   เขาไม่ใช่นักเผด็จการป่าเถื่อน  แต่เขาเป็นผู้ฟังที่เอาใจใส่ซึ่งได้เกิดในตอนต้น  ได้ทำให้ผลักดับเขาเติบโตขึ้นมา และไม่เคยดื่มเหล้า    ทำอย่างไรผู้ชายจะกลับกลายเป็นพระ?    ในจุดนี้  มันเป็นความพยายามในการอุทธรณ์ ลอร์ด แอคตัน และได้กล่าวว่าอำนาจเบ็ดเสร็จถูกยึดจากมูกาเบ้    แต่้อย่างไรที่แท้จริง? อะไรคือกลไกการครอบงำอำนาจ?   ในเอกสารฉบับใหม่ที่เรียกว่า "อำนาจครอบงำได้อย่างไร"    ทีนักจิตวิทยามมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเสนอแนะว่าอำนาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงจิตวิทยาของผู้ทรงพลังอำนาจ มากกว่าสรีรวิทยวา    ผู้ประพันธ์นำโดย ดาน  า คาร์เน่ย์ และทีมงานของหล่อนตั้งข้อสมมติฐานว่าเพราะว่าอำนาจนั้นง่ายต่อการทำให้เกิดความเครียดทุกวัน   นักเผด็จการไม่เคยกังวลเกี่ยวกับการขับรถหรือการจ่ายเงินเพื่อจดจำนอง    บุคคลที่ทรงพลังอำนาจจะแสดงถึงระดับของคอร์ติโซล  ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ใกล้ชิดกับความเครียด
            ในรูปแบบพฤติกรรมแบบอมตะ  แม้แต่บาปประจำวันเช่นการโกหก คือสิ่งที่เต็มไปด้วยความเครียด   นักเล่าเรื่องที่โกหกต้องกระตือรือร้นในการแอบซ่อนและกดดันทุกสิ่งทุกอย่างได้แก่ ความจริง, การติดตามผลภายในสิ่งที่ประกอบด้วยศิลธรรม, ปทัสถานทางสังคม, ความเกรงกลัวที่เป็นเรื่องสำคัญ และการพิจารณาผลประโยชน์ของคนอื่น ๆ  "คาร์เน่ย์ และเพื่อนร่วมงานขอเขาเขียน "ความกดดันนำไปสู่อารมณ์ในเชิงลบ, เป็นการลดหน้าที่ทางด้านจิตใจ และความเครียดทางสรีรวิทยา   แต่เมื่อพวกเขามีระดับคอร์ติซอลในระดับต่ำกว่า  "ก็จะเต็มไปด้วยพลังอำนาจอย่างมากมายในทรัพยากรทางอารมณ์ และทรัพยากรทางการรับรู้ในการใช้ผู้ที่มีความเครียดในการนำเท่าที่พวกเขาแสดงขึ้น  ในหนทางนี้ นักเผด็จการอาจจะกลับจะมีภูมิคุ้มกันต่อความเสียใจ   เมื่อทีมโคลัมเบียได้ทำการทดสอบสมมติฐานในการดำเนินการวิจัยในห้องปฏิบัติการ   พวกเขาพบว่าการศึกษาผู้มีส่วนร่วมที่กำหนดในสำนักงานใหญ่และแจ้งข่าวสารให้พวกเขาเป็นผู้จัดการที่ทำการตัดสินใจที่ยุ่งยากซึ่งมีความง่ายมากกว่าการให้แสดงบทบาทในการเป็นลูกน้อง     ไม่เพียงแต่คะแนนกลุ่มของผู้มีอำนาจสูงในการวัดผลทางจิตวิทยาของความเครียด    พวกเขายังมีระดับคอร์ติซอลที่ต่ำกว่าในตัวอย่างน้ำลาย   ไม่มีอะไรในสิ่งนี้หมายถึงเราสามารถยกโทษนักเผด็จการในการก่ออาชญากรรม   แต่สมองของเราไม่ได้ออกแบบอย่างง่ายดายในการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จในการกวัดแกว่งอำนาจเบ็ดเสร็จ   นักเผด็จการอาจต่อสู้จนจบเพราะว่าพวกเขาไม่เข้าใจว่าจุดสิ้นสุดเป็นสิ่งที่เป็นไปได้    กัดดาฟีควรลดตัวเองลงมาก่อนที่เขาจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง     มูบารัคควรจะถอนกำลังก่อนที่เขาจะออกจากอียิปต์เมื่อสัปดาห์ก่อนที่เขาลาออก   ฮิตเล่อร์เป็นผู้ที่ลักษณะทางการทหารที่เข็มแข็งมากเกินไป และอ่อนแอมากเกินไปในการเจรจาต่อรองทาง
นั่นคือเหตุผลว่าพวกเผด็จการเชิญชวนในการทำลายล้าง


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

ตัวแบบจำลองภารกิจของแอสริช (Ashridge Mission Model)

การปฏิรูปการศึกษาในต่างประเทศ