มิจฉาทิฐฺิในความคิดการปฏิวัติรัฐประหาร
ทำไมการปฏิวัติรัฐประหารจึงนิยมในหมู่ทหารในระดับผู้นำ หรือได้รับแรงสนับสนุนจากฝ่ายทหาร ซึ่งเป้นสิ่งที่เป็นค่านิยมในเชิงมิจฉาทิฐิต่อการแสดงออกของประชาชนคนไทยที่รักประชาธิปไตยที่มนุษย์มี่ความเท่าเทียมกัน และมีเสรีภาพหรือความเสมอภาคนั้น เท่าที่ผ่านมาในการรัฐประหารแต่ละครั้งเป็นประจักษ์แล้วว่าไม่ได้ช่วยสังคม หรือประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้า แต่กลับกลายว่าฝ่ายรัฐประหารเป็นผู้ได้รับความก้าวหน้าเพราะเหตุว่า
ก. การรัฐประหารมักจะหาวิธีแอบอ้างความชอบธรรมเพื่อนำไปสู่การปฏิวัติที่ไม่ชอบธรรม เพราะการรัฐประหารมิใช่อำนาจของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่เป็นเพียงคนกลุ่มที่มีจำนวนน้อยแต่กลับพยายามปลุกกระแสการรัฐประหาร ซึ่งในปัจจุบันการปลุกกระแสนี้ย่อมเป็นการยาก และหากมีการรัฐประหาร ก็เท่ากับเป็นการปล้นอำนาจของราษฎรมาสู่คณะหนึ่งคณะใด หรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งซึ่งมาใช้อำนาจแทนราษฎร โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับอำนาจของประชาชน เท่ากับเป็นการขัดต่อพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 หากจะทำการรัฐประหารก็ให้ใช้วิธีลงประชามติว่าประชาชนส่วนใหญ่เขาจะรับรองหรือไม่?
ข. การรัฐประหาร เป็นการแบ่งอำนาจ หรือจัดสรรอำนาจเฉพาะกลุ่มที่ทำการรัฐประหาร และได้ใช้พวกพ้องของตนเองขึ้นมามีอำนาจ ในลักษณะที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม เพราะมิใช่เป็นอำนาจของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่เลือกตั้งเข้ามา เท่ากับเป็นการปลุกกระแสผู้นิยมลัทธิเผด็จการนั่นเอง และผลประโยชน์ของชาติอย่างมากมายต้องมีการทุจริตอย่างมโหฬาร โดยไม่ฟังเสียงความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันนี้ความนิยมการรัฐประหารมีน้อยลงมาก หากมีการโหวตกันว่าคนไทยต้องการรัฐประหารหรือไม่ จะมีเพียงกลุ่มบุคตลไม่กี่คนที่ต้องการรัฐประหารเพียงเพราะต้องการช่วงชิงอำนาจจากประชาชน และไม่ได้เดินตามกติกาแบบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการช่วงชิงอำนาจจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมาสู่อุ้งมือของคนกลุ่มน้อยนิด ซึ่งมิใช่เสี่ยงส่วนใหญ่แต่ประการใด
ค. ผลประโยชน์จากการรัฐประหาร และความหอมหวลในอำนาจ และผลประโยชน์มีมากมาย ซึ่งบุคคลที่เป็นคนนำรัฐประหาร และกลุ่มบุคคลที่ทำการรัฐประหารจะได้ผลประโยชน์จากงบประมาณมากมายเช่นงบประมาณเกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ เท่ากับเป็นการรัฐประหารกลายเป็นธุรกิจการเมืองเพื่อหาผลประโยชน์ มากกว่าการทำเพื่อชาติบ้านเมืองโดยส่วนรวม และพยายามสถาปนารัฐบาลที่เป็นตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ ซึ่งนักวิชาการไทยควรมองเห็นความจริง และย่อมไม่สนับสนุนวิถีทางที่เป็นมิจฉาทิฎฐิทางการเมืองอย่างแน่นอน และทำให้บุคคลที่เป้นทหารจะเป้นที่ชิงชัง หรือได้รับการดูถูกเหยียดหยามจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งไม่สมควรที่จะออกมาแสดงออก ซึ่งผิดกฎหมายรัฐธรรมนุญ อันเป็นการยั่วยุให้บุคคลทำความผิดกฎหมายอย่างมหันต์ และไม่ควรกล่าวโทษบุคคลใด ๆ โดยไม่มีหลักฐานข้อมูลอย่างแท้จริง หากมีผู้ไม่ประสงค์ดีก็เป้นหน้าที่ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้ตัดสิน และประชาชนส่วนใหญ่คงไม่ยอมให้ใครกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม เพราะปัจจุบันประชาชนมีความเข้าใจมากมายแล้ว
ง.ในปัจจุบันทหารที่รักประชาธิปไตย และรักประชาชนมีความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกก้มีมากขึ้นทุกวัน ซึ่งเป้นทหารฝ่ายก้าวหน้าที่มีจำนวนมากขึ้น และมีความคิดแบบสัมมาทิฐิ ซึ่งเป้นความเห็นที่ถุูกต้อง การแสดงออกที่มองว่าผู้มีความเห็นแตกต่างจะเป็นคนไม่ดี หรือไม่นั้นไม่ควรด่วนสรุปตัดสิน หรือเหมารวม แต่ควรมองว่าประชาธิปไตยคือกระแสที่โลกต้องการ ซึ่งจะดูได้จากแถบตะวันออกกลาง ในยุโรป และในเอเชีย เช่นพม่ากลับจะยอมรับแนวประชาธิปไตยมากกว่าไทย หากคนบางกลุ่มปรารถนาเพียงเพืออำนาจแบบเก่า ๆ ที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นย่อมไม่ได้รับการสนับสนุน เมื่อขึ้นมามีอำนาจก็จะได้รับเสียงก่นว่าไปทั้งประเทศ และไม่เป้นที่ยอมรับของสากลโลก ดังนั้นในยุคนี้ เป็นยุคสมัยใหม่ และไม่เก่าแก่เหมือนในอดีต
จ. กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่รณรงค์เรีื่องประชาธิปไตย หากมีความรักประชาธิปไตยจริง ๆ แล้ว ก็ไม่สมควรยุยุงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย โดยปลุกกระแสการรัฐประหาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มพันธมิตรที่แอบอ้างว่ารักประชาธิปไตยของประชาชน ก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าไม่จริง และความเชื่อถือของประชาชนยิ่งจะขาดศรัทธามากขั้น และไม่เป็นผลดีต่อการรณรงค์ประชาธิปไตย แต่ควรเป็นพันธมิตรร่วมก้บผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนกันที่มีเป้าหมายอันเดียวกัน เพียงแต่การมองทัศนะประชาธิปไตยอาจต่างกันบ้าง แต่เนื้อหาหรือแก่นสารเป็นประชาธิปไตย ความแตกต่างไม่ใช่้เรื่องสำคัญ สำคัญที่เหตุผลนั้นเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ และไม่ควรโจมตีชนิดเหวี่ยงแห และสร้างความเขั้าใจสับสนแก่สังคม
ฉ. ทหารควรเป็นทหารอาชีพ ที่ยืนเคึยงคู่กับประชาชนโดยไม่มีช่องว่าง และไม่ควรรังเกียจประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศ ไม่ควรเหินห่างประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ การที่ทหารยืนอยู่่ตรงกันข้ามกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ย่อมทำให้ประเทศไทยล้าหลังกว่าประเทศอื่น ๆ ซึ่งเขามีประชาธิปไตยกัน ไม่ควรหวลหาความเป็นเผด็จการเพื่อครอบงำประเทศเลย เพราะตัวอย่างประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้ ผู้ที่กระหายอำนาจ หรือผู้นำที่มุ่งแต่อำนาจจะไม่สามารถยืนหยัดไปในทิศทางที่ดีเลย ดังนั้นความฉลาดทางประชาธิปไตยของบุคคลในประเทศมีความสำคัญมาก เป็นเครื่องชี้วัดว่ามีจิตใจประชาธิปไตยเพียงใด และอย่าไปเชื่อคนกลุ่มจำนวนน้อยที่ไม่ค่อยเข้าใจหรือส่งเสริมประชาธิปไตย เพราะอาจเข้าใจผิดพลาดในแก่นแท้ของประชาธิปไตย แต่เป็นความเข้าใจประชาธิปไตยแบบไม่ยอมรับศักดิ์ศรีมนุษย็ หรือไม่ให้เกียรติกับประชาชนส่วนใหญ่่ของประเทศ และนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
สรุป ควรมีสัมมาทิฐิในการรักษา หรือหวงแหนประชาธิปไตย เพราะโลกใบนี้แคบลง การกระทำใด ๆ หากเป็นสิ่งที่่ชั่วร้ายควรลดการกระทำ และมอบสิ่งดี ๆ ให้กับประชาชนด้วยการเสียสละ ไม่ลุ่มหลงอำนาจโดยลืมไปว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เขาต้องการประชาธิปไตย เขาไม่ได้ต้องการเผด็จการ เพราะเผด็จการนั้นจะไม่เป้นที่ศรัทธาหรือเป็นทื่ยอมรับของประชาชน ควรเห็นใจประชาชนที่ลำบากยากจนที่เขาไม่มีโอกาส หรืออยู่ในสภาพยากจน และทำให้เขามีชีวิตดีขึ้น รวมทั้งประเทศมีความเจริญในภาพรวม ดีกว่าการแย่งอำนาจจากราษฎรทั้งประเทศโดยไม่แคร่ต่อสายตาประชาชนทั่วโลก ดังที่อัจฉริยะประชาธิปไตยมีลักษณะที่ว่า"รักประชาธิปไตยต้องใช้ปัญญาเป็นอาวุธ มิใช่ใช้อาวุธเพื่อแสวงหาอำนาจ, การได้อำนาจมาควรได้มาด้วยความสง่างาม อำนาจที่ไม่ได้มาด้วยความสง่างามจะเป็นอำนาจที่ไม่ยังยืน และไม่มีใครชื่นชมเป็นแน่แท้ ผู้ฉลาดจะไม่เลือกกระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับประเทศของเขา"
ก. การรัฐประหารมักจะหาวิธีแอบอ้างความชอบธรรมเพื่อนำไปสู่การปฏิวัติที่ไม่ชอบธรรม เพราะการรัฐประหารมิใช่อำนาจของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่เป็นเพียงคนกลุ่มที่มีจำนวนน้อยแต่กลับพยายามปลุกกระแสการรัฐประหาร ซึ่งในปัจจุบันการปลุกกระแสนี้ย่อมเป็นการยาก และหากมีการรัฐประหาร ก็เท่ากับเป็นการปล้นอำนาจของราษฎรมาสู่คณะหนึ่งคณะใด หรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งซึ่งมาใช้อำนาจแทนราษฎร โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับอำนาจของประชาชน เท่ากับเป็นการขัดต่อพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 หากจะทำการรัฐประหารก็ให้ใช้วิธีลงประชามติว่าประชาชนส่วนใหญ่เขาจะรับรองหรือไม่?
ข. การรัฐประหาร เป็นการแบ่งอำนาจ หรือจัดสรรอำนาจเฉพาะกลุ่มที่ทำการรัฐประหาร และได้ใช้พวกพ้องของตนเองขึ้นมามีอำนาจ ในลักษณะที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม เพราะมิใช่เป็นอำนาจของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่เลือกตั้งเข้ามา เท่ากับเป็นการปลุกกระแสผู้นิยมลัทธิเผด็จการนั่นเอง และผลประโยชน์ของชาติอย่างมากมายต้องมีการทุจริตอย่างมโหฬาร โดยไม่ฟังเสียงความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันนี้ความนิยมการรัฐประหารมีน้อยลงมาก หากมีการโหวตกันว่าคนไทยต้องการรัฐประหารหรือไม่ จะมีเพียงกลุ่มบุคตลไม่กี่คนที่ต้องการรัฐประหารเพียงเพราะต้องการช่วงชิงอำนาจจากประชาชน และไม่ได้เดินตามกติกาแบบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการช่วงชิงอำนาจจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมาสู่อุ้งมือของคนกลุ่มน้อยนิด ซึ่งมิใช่เสี่ยงส่วนใหญ่แต่ประการใด
ค. ผลประโยชน์จากการรัฐประหาร และความหอมหวลในอำนาจ และผลประโยชน์มีมากมาย ซึ่งบุคคลที่เป็นคนนำรัฐประหาร และกลุ่มบุคคลที่ทำการรัฐประหารจะได้ผลประโยชน์จากงบประมาณมากมายเช่นงบประมาณเกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ เท่ากับเป็นการรัฐประหารกลายเป็นธุรกิจการเมืองเพื่อหาผลประโยชน์ มากกว่าการทำเพื่อชาติบ้านเมืองโดยส่วนรวม และพยายามสถาปนารัฐบาลที่เป็นตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ ซึ่งนักวิชาการไทยควรมองเห็นความจริง และย่อมไม่สนับสนุนวิถีทางที่เป็นมิจฉาทิฎฐิทางการเมืองอย่างแน่นอน และทำให้บุคคลที่เป้นทหารจะเป้นที่ชิงชัง หรือได้รับการดูถูกเหยียดหยามจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งไม่สมควรที่จะออกมาแสดงออก ซึ่งผิดกฎหมายรัฐธรรมนุญ อันเป็นการยั่วยุให้บุคคลทำความผิดกฎหมายอย่างมหันต์ และไม่ควรกล่าวโทษบุคคลใด ๆ โดยไม่มีหลักฐานข้อมูลอย่างแท้จริง หากมีผู้ไม่ประสงค์ดีก็เป้นหน้าที่ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้ตัดสิน และประชาชนส่วนใหญ่คงไม่ยอมให้ใครกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม เพราะปัจจุบันประชาชนมีความเข้าใจมากมายแล้ว
ง.ในปัจจุบันทหารที่รักประชาธิปไตย และรักประชาชนมีความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกก้มีมากขึ้นทุกวัน ซึ่งเป้นทหารฝ่ายก้าวหน้าที่มีจำนวนมากขึ้น และมีความคิดแบบสัมมาทิฐิ ซึ่งเป้นความเห็นที่ถุูกต้อง การแสดงออกที่มองว่าผู้มีความเห็นแตกต่างจะเป็นคนไม่ดี หรือไม่นั้นไม่ควรด่วนสรุปตัดสิน หรือเหมารวม แต่ควรมองว่าประชาธิปไตยคือกระแสที่โลกต้องการ ซึ่งจะดูได้จากแถบตะวันออกกลาง ในยุโรป และในเอเชีย เช่นพม่ากลับจะยอมรับแนวประชาธิปไตยมากกว่าไทย หากคนบางกลุ่มปรารถนาเพียงเพืออำนาจแบบเก่า ๆ ที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นย่อมไม่ได้รับการสนับสนุน เมื่อขึ้นมามีอำนาจก็จะได้รับเสียงก่นว่าไปทั้งประเทศ และไม่เป้นที่ยอมรับของสากลโลก ดังนั้นในยุคนี้ เป็นยุคสมัยใหม่ และไม่เก่าแก่เหมือนในอดีต
จ. กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่รณรงค์เรีื่องประชาธิปไตย หากมีความรักประชาธิปไตยจริง ๆ แล้ว ก็ไม่สมควรยุยุงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย โดยปลุกกระแสการรัฐประหาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มพันธมิตรที่แอบอ้างว่ารักประชาธิปไตยของประชาชน ก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าไม่จริง และความเชื่อถือของประชาชนยิ่งจะขาดศรัทธามากขั้น และไม่เป็นผลดีต่อการรณรงค์ประชาธิปไตย แต่ควรเป็นพันธมิตรร่วมก้บผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนกันที่มีเป้าหมายอันเดียวกัน เพียงแต่การมองทัศนะประชาธิปไตยอาจต่างกันบ้าง แต่เนื้อหาหรือแก่นสารเป็นประชาธิปไตย ความแตกต่างไม่ใช่้เรื่องสำคัญ สำคัญที่เหตุผลนั้นเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ และไม่ควรโจมตีชนิดเหวี่ยงแห และสร้างความเขั้าใจสับสนแก่สังคม
ฉ. ทหารควรเป็นทหารอาชีพ ที่ยืนเคึยงคู่กับประชาชนโดยไม่มีช่องว่าง และไม่ควรรังเกียจประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศ ไม่ควรเหินห่างประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ การที่ทหารยืนอยู่่ตรงกันข้ามกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ย่อมทำให้ประเทศไทยล้าหลังกว่าประเทศอื่น ๆ ซึ่งเขามีประชาธิปไตยกัน ไม่ควรหวลหาความเป็นเผด็จการเพื่อครอบงำประเทศเลย เพราะตัวอย่างประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้ ผู้ที่กระหายอำนาจ หรือผู้นำที่มุ่งแต่อำนาจจะไม่สามารถยืนหยัดไปในทิศทางที่ดีเลย ดังนั้นความฉลาดทางประชาธิปไตยของบุคคลในประเทศมีความสำคัญมาก เป็นเครื่องชี้วัดว่ามีจิตใจประชาธิปไตยเพียงใด และอย่าไปเชื่อคนกลุ่มจำนวนน้อยที่ไม่ค่อยเข้าใจหรือส่งเสริมประชาธิปไตย เพราะอาจเข้าใจผิดพลาดในแก่นแท้ของประชาธิปไตย แต่เป็นความเข้าใจประชาธิปไตยแบบไม่ยอมรับศักดิ์ศรีมนุษย็ หรือไม่ให้เกียรติกับประชาชนส่วนใหญ่่ของประเทศ และนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
สรุป ควรมีสัมมาทิฐิในการรักษา หรือหวงแหนประชาธิปไตย เพราะโลกใบนี้แคบลง การกระทำใด ๆ หากเป็นสิ่งที่่ชั่วร้ายควรลดการกระทำ และมอบสิ่งดี ๆ ให้กับประชาชนด้วยการเสียสละ ไม่ลุ่มหลงอำนาจโดยลืมไปว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เขาต้องการประชาธิปไตย เขาไม่ได้ต้องการเผด็จการ เพราะเผด็จการนั้นจะไม่เป้นที่ศรัทธาหรือเป็นทื่ยอมรับของประชาชน ควรเห็นใจประชาชนที่ลำบากยากจนที่เขาไม่มีโอกาส หรืออยู่ในสภาพยากจน และทำให้เขามีชีวิตดีขึ้น รวมทั้งประเทศมีความเจริญในภาพรวม ดีกว่าการแย่งอำนาจจากราษฎรทั้งประเทศโดยไม่แคร่ต่อสายตาประชาชนทั่วโลก ดังที่อัจฉริยะประชาธิปไตยมีลักษณะที่ว่า"รักประชาธิปไตยต้องใช้ปัญญาเป็นอาวุธ มิใช่ใช้อาวุธเพื่อแสวงหาอำนาจ, การได้อำนาจมาควรได้มาด้วยความสง่างาม อำนาจที่ไม่ได้มาด้วยความสง่างามจะเป็นอำนาจที่ไม่ยังยืน และไม่มีใครชื่นชมเป็นแน่แท้ ผู้ฉลาดจะไม่เลือกกระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับประเทศของเขา"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น