สิ่งแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลงกับการทำงานเป็นทีม
สิ่งแวดล้อมภายใต้การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันมักจะพูดเกี่ยวกับเรื่องคน และการเปลี่ยนแปลงวิถีทางใหม่ของเหตุผลและวิธีการทำงานที่ดี และสิ่งที่เราทำงานกับสิ่งต่าง ๆ
นักวิชาการที่อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ข้อเสนอแนะว่าวัฒนธรรมเชิงธุรกิจแนวใหม่ควรจะมีแนวทางในการส่งเสริมการสร้างทีมงาน และปรับปรุงผลงาน โดยมีความเชื่อการจัดการเป็นทีมนำเสนอรูปแบบที่เอื้อประโยชน์มากที่สุด สิ่งเหล่านี้มีคุณค่าที่แนวคิดในการทำงานเป็นทีมซึ่งองค์การควรจะ
- ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่สนับสนุนและความคิดสร้างสรรค์ซึ่งจูงใจให้พนักงานมีพลังในตัวของเขาเอง
- ส่งเสริมการกำหนดเป้าหมายร่วมกันด้วยเป้าหมายผลการปฏิบัติงานโดยเฉพาะ
- ตอบสนองงานที่มีความหมาย และโอกาสในการพัฒนาอาชีพ
- ส่งเสริมนวัตกรรมโดยการเฝ้าระวังความขัดแย้งและความแตกต่างของพนักงาน แทนที่การแสวงหายินยอมพร้อมใจ
บทบาทของผู้จัดการได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในทุกองค์การ ผู้จัดการที่เข้มแข็งจะต้องมีความสามารถในการบูรนาการในการมีองค์การที่มีความซับซ้อนมากขึ้นซึ่งต้องสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีภูมิหลังที่แตกต่างกัน,บุคลิภาพและการฝึกอบรมและประสบการณ์ที่เชื่อมต่อในกลุ่มการทำงานที่มีประสิทธิผล
เหตุผลที่เป็นข้อเสนออย่างกว้างขวางมากที่สุดการการนิยมชมชอบเกี่ยวกับทีม และการขยายตัวของการแนวทางการจัดการทีมซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในสิ่งแวดล้อมภายในองค์การที่ต้องดำเนินการนำ
นวัตกรรมใหม ๆ มาใช้ ในปี ค.ศ.1984 จอห์น ไนบิตต์ทำนายว่าจำนวนของของแนวโน้มทั่วไป สำหรับปี1980ซึ่งได้แก่การเคลื่อนไหวจากการรวมศูนย์อำนาจเป็นการกระจายอำนาจจากระบบประชาธิปไตยแบบตัวแทนไปสู่ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
การเปลี่ยนแปลงที่เผชิญหน้าของการจัดการมีผลสะท้อนที่เคลื่อนไหวต่อความร่วมมือ, การร่วมมือ และทีม สิ่งนี้เคลื่อนไหวทีมีต่อการรวบรวมโดยเจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงจากสภาพแวดล้อมทื่เปลี่ยนแปลงทำให้ผู้นำจำเป็นต้องแสวงหาการทำงานที่ดีกว่า และส่งเสริมการทำงานเป็นทีม และส่งเสริมพฤติกรรมที่เน้นทำงานเป็นทีม
ก. ความร่วมมือ สิ่งนี้หมายถึงพฤติกรรมที่ร่วมมือกับคนอื่น สามารถแก้ปัญหาเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันไม่จำเป็นต้องสะสมเครดิตด้วยการตีตนออกห่างจาก เมื่อคุณร่วมมือกับคนอื่นและช่วยกันแสวงหาทัศนะของข้อมูลที่แฝงเร้นและทำให้ทีมงานต้องขุดค้นออกมา คุณก็จะได้รับการยอมรับในการที่ช่วยให้ต่อยอดในสิ่งทีขาดหายไป
ข. การวิพากย์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ บางครั้งสิ่งหนึ่งที่ยุ่งยากที่สุดในการปฏิบัติต่อเมื่อการทำงานในทีมงานสามารถแสดงความคิดเห็นโดยปราศจากการตีความวินิจฉัยมากเกินไป ทำอย่างไรคุณจึงจะแสดงความคิดเห็นโดยปราศจากการปกป้องคนใดคนหนึ่งใช่ใหม? ทำอย่างไรจึงจะหยิบยกสิ่งต่าง ๆ ที่ดีสำหรับทีมทั้งหมดใช่ใหม? การทำให้สามารถวิพากย์วิจารณ์ได้อย่างสร้างสรรค์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ จงเรียนรู้เพื่อชี้ให้เห็นว่างานต่าง ๆ นั้นจำเป็นต้องปรับปรุง และหมายถึงมุ่งที่ตัวงานมากกว่าตัวคน การให้ความสำคัญที่เท่าเทียมกันสามารถทำให้เกิดการวิพากย์วิจารณ์ในตัวคุณเองได้อย่างสร้างสรรค์
ค. ดึงเอาอัตตาออกมา ท่ามกลางพฤติกรรมในการทำงานเป็นทีม การสามารถหยุดยั้งอัตตาของคุณออกจากความรู้สึกเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ม่ช่องว่างสำหรับอัตตาในสิ่งแวดล้อมที่ให้ความสำคัญในการทำงานเป็นทีม เมื่ออัตตากลับมามีบทบาทเมื่อใด ก็จะทำให้เกิดการทำลายมากทีเดียวเพราะคนเราจะมองแต่ผลประโยชน์ส่วนตนจนลืมถึงเป้าหมายของทีมงาน
ง. ความกระตือรือร้นและกระฉับกระเฉง คุณอาจจะไม่ได้เป็นผู้นำแต่ไม่เป็นไร คุณจำเป็นในการจุดไฟในการทำงานเป็นทีม คุณต้องแสดงถึงพลังงานและความกระตือรือร้น คุณต้องตั้งใจและกล้าหาญในการนำแผนงานไปใช้ซึ่งได้มีการคิดค้น พลังงานของสมาชิกทีมเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในทีมงาน มันสามารถสร้างแรงจูงใจคนอื่นในการนำเอาพฤติกรรมเชิงบวกสำหรับทีมงานต่อการต้องการเป็นแนวหน้า
จ. ความเห็นอกเห็นใจ ในการเรียนรู้พฤติกรรมสำหรับทีมงาน ทำให้มั่นใจว่าคุณได้เรียนรู้ในการติดต่อกับสมาชิกทีมงาน สิ่งนี้หมายความว่าเป็นการนำความเห็นอกเห็นใจในสิ่งที่คนอื่นได้ฝ่าฟัน การติดต่อเสริมสร้างความเคารพและมีความสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิผล เมื่อคุณทำในสิ่งที่คุณเชื่อมต่อกับคนอื่นเพื่อช่วยให้อีกฝ่ายหนึ่งดำเนินโครงการได้ลุล่วงไปอย่างดี
ฉ. ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คุณต้องมีมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานส่วนบุคคลที่สูงในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมในการทำงานเป็นทีม เมื่อคุณมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันสูง ไม่มีใครสงสัยในการกระทำของคุณ คุณต้องมีความจริงใจในความคิดเห็นของคุณและเกี่ยวข้องกับสมาชิกทีมงานอื่น ๆ ความเชื่อถือไว้วางใจที่ก้าวไปอย่างมั่นคงยังหมายถึงมันจะช่วยลดการทิ่มแทงข้างหลังและการซุบซิบนินทาในทีมงาน
ช. การสร้างความสมดุลในบทบาทการนำการทำตาม สิ่งนี้คือลักษณะของพฤติกรรมประการหนึ่งของทีมงานที่คนส่วนมากผิดพลาด ในการทำงานในทีมไม่ได้ทำให้คุณเป็นผู้นำหรือผู้ตามอยู่สม่ำเสมอ ตัวอย่างเช่นหากคุณรุ้ว่มีระดับของผู้เชี่ยวชาญสักคนหนึ่งที่สามารถใช้ในสถานการณ์หนึ่ง จงยืนขึ้นมาและนำพาทีมโดยผ่านสิ่งท้าทาย ไม่ได้หมายความว่าคุณจะบอกกับตัวคุณเองว่าคุณไม่ได้เป็นผู้นำ คุณจะต้องวางตัวเงียบเฉย
พฤติกรรมสำหรับการทำงานเป็นทีมเป็นส่วนประสมและจับคู่กับคุณลักษณะและค่านิยมที่แตกต่าง ในแต่ละอย่างจะต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน คุณจำเป็นต้องสามารถรับรู้เมื่อใช้ในสิ่งที่เพื่อจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อทีมสูงสุด
สรุป ในปัจจุบันสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้การทำงานร่วมกัน และพร้อมใจมีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังตัวอย่างเช่น "หลายหัวดีกว่าหัวเดียว", สามัคคีมีพลัง แต่ในปัจจุบันการทำงานแบบไทย ๆ ยังไม่ได้ให้ความสำคัญของการทำงานเป็นทีมมากนัก คนไทยอาจชอบทำงานแบบวันแมนโชว์ หรือเก่งคนเดียว, เป็นอัศวินม้าขาว ซึ่งองค์การต่าง ๆควรตระหนักอยู่เสมอว่าการทำงานเป็นทีมช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดเวลา และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ดังการทำงานแบบคิวซี หรือทีคิวซีของญี่ปุ่น เป็นต้น
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น