แนวทางแก้ปัญหาประชาธิปไตยแบบไทย ๆ
ในการปกครองประชาธิปไตยในประเทศ ไทยนั้นยังไม่ได้พัฒนาไปอย่างก้ าวไกลนั้นหรือมีลักษณะการพัฒนาท ี่ไม่ยั่งยืน จึงเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศไทยใน การแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เก ิดขึ้น โดยผู้เขียนขอเสนอทางออกโดยการป ระยุกต์ดังนี้
1. หลักพระพุทธศาสนา ซึ่งมีสิ่งที่เป็นสัจธรรมของพระ พุทธเจ้าที่ทรงค้นพบนั่นคืออริย สัจสี่ ซึ่งประกอบด้วย ได้แก่
ก.ทุกข์ คือสิ่งที่เป็นปัญหาที่ทำให้คนใ นชาติไม่สบายใจ และไม่มีความสุขได้แก่ การมองปัญหาหรือแนวทางแก้ไขปัญห าต่างกัน หรือการมีกรอบคิดที่ต่างกันในกา รแก้ปัญหา หรือการมีความคิดต่างมุมมอง
แต่ไม่สามารถประสานความคิดได้ นั่นคือเรื่องของประชาธิปไตยที่ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่ ได้รับอำนาจอธิปไตย แต่เกิดจากปัญหาการเมืองที่มุ่ง โจมตีเรื่องผู้นำ หรือยึดหลักตัวบุคคลมากกว่าหลัก การ
ข. สมุทัย คือสาเหตุที่เกิดทุกข์ ก็คือเกิดความขัดแย้งของกลุ่มบุ คคลที่มีเสื้อสีต่างกัน แต่มีลักษณะที่ขัดแย้งกันในแง่ผ ลประโยชน์ ทำให้กลุ่มคนได้ใช้อำนาจอย่างไม ่เป็นธรรมก็ยิ่งทำให้ปัญหาเพิ่ม มากขึั้น เพราะยังขาดความยุติธรรม หรือความเป็นธรรมที่เกิดขึ้น
ค. นิโรธ คือการทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้ นมาจากสาเหตุใด สาเหตุอาจเกิดจากการขัดแย้งในระ หว่างผู้นำกันเอง และลงมาถึงระดับล่าง ทำอย่างไรจึงจะพูดจาภาษาเดียวกั น หรือการยอมลดตัวเองเพื่อหาทางเช ื่อมความสามัคคีของคนในชาติ โดยยึดหลักกติกามากกว่าการยึดหล ักตัวบุคคล หรือความชอบพอส่วนบุคคล ทำให้ขาดหลักการที่จะถือเป็นหลั กได้
ง. มรรค คือหนทางไปสู่การแก้ปัญหาการเมื อง ซึ่งหากหนทางที่ใช้เป็นแนวทางแก ้ไขโดยการมุ่งหมายเอาชนะกันของค นในชาติ ท้ายที่สุดก็ทำให้ประชาชนต้องมา ล้มตาย,บาดเจ็บ ทำให้ประเทศไทยขาดทุนในด้านทรัพ ยากร,ในด้านคุณค่าของคนไทยที่เค ยรักษาสิ่งที่ดีงามไว้ นั่นคือต้องคิดดี, และเห็นชอบในสิ่งที่จะนำประเทศไ ปสู่ความเจริญรุ่งเรือง, ระลึกชอบในสิ่งที่จะธำรงรักษาปร ะเทศให้มีความมั่นคง และไม่นิยมใช้ความรุนแรง มุ่งหมายให้ประเทศมีความสงบ ปฏิบัติชอบ คือการปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์คน ไทยที่มีความรักสมัครสมานกันมาก กว่าจะปฏิบัติต่อกันในการทำลายล ้างกัน เป็นต้น
2. หลักการจัดการบ้านเมืองเชิงสมดุ ลย์ (Balanced Scorecard for Governance) ซึ่งมี 4 มิติ ที่นิยมนำไปใช้ในภาคธุรกิจ แต่ผู้เขียนขอนำมาปรับใช้กับทาง การเมืองเพื่อให้การจัดการมีควา มสมดุลย์ ซึ่งได้แก่
ก. มิติในด้านการเงิน (Financial Dimension) หมายถึงว่านักการเมืองไม่ว่าฝ่า ยใด ๆ ควรล้มเลิกความคิดที่เข้ามาทำงา นการเมืองเพียงเพื่อแสวงหาผลประ โยชน์ทางการเมือง และใช้ประชาชนเป็นฝ่ายสนับสนุน ผลสุดท้ายก็อาจจะทำให้ประชาชนทั ้งสองฝ่ายต้องมาประจัญหน้ากัน เพราะมีแรงสนับสนุนจากทั้งสองฝ่ าย และไม่ควรมุ่งแสวงหาความร่ำรวยท างการเงินจากการเล่นการเมือง แต่ควรทำการเมืองเชิงสร้างสรรค์ ด้วยการออกกฎหมายที่ให้คนธรรมดา มาช่วยงานการเมืองได้ แต่มีความคิดที่ดีสามารถช่วยเหล ือบ้านเมืองได้ แต่มิใช่การเมืองแบบลงทุนมุ่งหว ังกำไร หรือกอบโกย จนเกิดปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น หรือการใช้เงินหว่านเพื่อการหาเ สียงทางการเมือง ทำให้การบริหารขาดความสมดุล เพราะเป็นเรื่องของการได้เปรียบ เสียเปรียบ ฝ่ายชนะก็อาจจะอ้างว่าได้รับการ เลือกตั้งมา แต่ฝ่ายแพ้เมื่อลงทุนล้มเหลวก็จ ะกล่าวโทษว่าอีกฝายมีการซื้อเสี ยงมากกว่า ซึ่งการกล่าวโทษนั้นอาจจะไม่เป็ นความจริง ทั้งนี้ เราไม่ได้กำหนดให้การสมัครการเม ืองไม่ควรมีการใช้เงินซื้อเสียง หรือหากแก้ไขได้ยากก็ควรให้มีกา รศึกษา หรือการรณรงค์อย่างจริงจัง หรือการกำหนดกติกาที่ให้ภาครัฐเ องเป็นผู้กำหนดงบประมาณในการจัด ทำป้ายหาเสียง หรือการกำหนดสถานที่รณรงค์เลือก ตั้งอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่ต้องใช้เงินซื้อเสียง
ข. มิติในด้านการเรียนรู้และการพัฒ นา (Learning and Growth Dimension) เป็นมิติของการให้โอกาสประชาชนไ ด้มีการศึกษาประชาธิปไตยให้พัฒน าก้าวไกลมากขึ้น การเมืองที่ผ่านมาจะมีการสร้างก ารเรียนรู้น้อยมาก แต่การเรียนรู้มักเกิดจากปัญหาข ัดแย้งระหว่างกลุ่ม ทำให้ทิศทางการพัฒนาการเมืองไปก ันคนละทิศทาง ขาดเอกภาพในการเรียนรู้ประชาธิป ไตยไปในทางเดียวกัน ทั้งนี้ประเทศไทยเหินห่างต่อการ ให้ความรู้การเมืองประชาธิปไตยม านานจนทำให้ความเข้าใจที่ถูกต้อ งนั้นยังไม่ถึงแก่นแท้ของประชาธ ิปไตย
ค. มิติในด้านกระบวนการภายใน (Internal Process Dimension) หมายถึงพรรคการเมืองต้องมีการพั ฒนาพรรคการเมืองไปสู่สถาบันการเ มืองที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเท ศยอมรับ ต้องเกิดจากภายในพรรคการเมืองที ่เติบโตจากการส่งเสริมของประชาช นในพรรคการเมืองนั้น ๆ เพื่อให้พรรคการเมืองมีความเข้ม แข็ง และเป็นพรรคการเมืองของประชาชน สามารถแก้ปัญหาสิ่งที่เกิดขึั้น จากความขัดแย้งต่าง ๆ ในเกิดความสมดุลย์ได้ นั่นคือภาวะผู้นำของพรรคการเมือ งแบบประชาธิปไตยที่ได้ใจของคนส่ วนใหญ่ในประเทศ สามารถหลอมรวมใจของคนในชาติได้ แต๋ก็มิใช่เป็นเรื่องง่าย เพราะต้องสร้างจิตสำนึกในการยอม รับความคิดเห็นต่าง ให้เข้าใจกันได้ ยอมรับความแตกต่างแต่ต้องไม่มอง ว่าเป็นศัตรต่อกัน
ง. มิติในด้านการสร้างความพึงพอใจแ ก่ประชาชน (Customer Satisfaction Dimension) นั่นคือการปกครองแบบประชาธิปไตย ต้องทำให้เกิดความสมดุลย์แก่ประ ชาชนทุกฝ่าย, ทุกระดับชั้น และพยายามสร้างความเสมอภาค,เท่า เทียมทั้งในด้านสิทธิเสรีภาพ และภราดรภาพ ซึ่งคนรวยก็ต้องมีจิตใจช่วยเหลื อคนจนมิใช่การเอารัดเอาเปรียบ, การให้โอกาสที่เท่าเทียมของคนใน สังคม, การไม่เลือกปฏิบัติเพราะความชอบ พอ จะต้องสร้างวัฒนธรรมของคนในชาติ ที่เป็นประชาธิปไตยโดยเริ่มตั้ง แต่ระบบครอบครัว,สังคม,องค์การ และประเทศชาติ เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิ ดขึ้นทำให้ชนชั้นในระบบเดิมไม่อ าจยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ทันเห ตุการณ์ ดังนั้นจะต้องมีวิธีการหลอมรวมค วามคิด และสร้างจิตสำนึกหรือจิตวิญญาณป ระชาธิปไตยที่รู้จักเสียสละ,ไม่ หวงแหนอำนาจ, มุ่งหวังให้คนรุ่นต่อไปมีอนาคตม ีโอกาส, สร้างกติกาที่เป็นธรรม ลดการแบ่งพรรคแบ่งพวกถือว่าเป็น คนไทยเหมือนกัน สร้างความสามัคคีมีน้ำใจต่อกัน ก็จะทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่น ่าอยู่,น่าเที่ยว และรวมถึงการออกกฎหมายที่ทำให้ป ระชาชนทุกระดับได้รับความยุติธร รมถ้วนหน้า
3. ใช้หลักการบริหารแบบ win-win game คือการบริหารแบบชนะชนะ หรือแบบทุกฝ่ายเป็นผู้ชนะ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบมาก จนเกินไป การบริหารทรัพยากรของชาติมีลักษ ณะแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ มิใช่การผูกขาดตัดตอน ตั้งแต่้การผูกขาดอำนาจ,ผูกขาดท างเศรษฐกิจ,ผูกขาดการปกครอง,ผูก ขาดความถูกต้องชอบธรรม ฯลฯ แต่เมือถึงคราวจำเป็นที่จะต้องใ ห้ประชาชนในชาติช่วยเหลือกันก็ต ้องมีแนวทางการขอร้องเพื่อให้มี การช่วยประเทศชาติในยามวิกฤติ เช่นการเพ่ิมภาษีคนรวยเพื่อช่วย คนจน, การปฏิรูปที่ดินจากผู้มีฐานะดี เพื่อเปิดโอกาสให้คนในชาติมีฐาน ะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และการยกย่องคนรวยที่ช่วยเหลือค นจนให้เป็นที่ยอมรับของสังคม
4. การส่งเสริมยุทธศาสตร์การเป็นผู ้นำต้นทุน หรือการสร้างความแตกต่างในการผล ิตหรือบริการ นั่นคือผู้นำต้องสามารถทำให้ต้น ทุนของประเทศต่ำลง การลดข้อขัดแย้งซึี่งทำให้ประเท ศขาดทุน เสียชื่อเสียง และเสียชื่อวงศ์ตระกูล หรือเสียชือในทางประวัติศาสตร์ ผู้นำที่ดีก็ไม่ควรทำ แต่หันมาหาทางช่วยประเทศชาติฟื้ นฟูวิกฤติ ไม่ยอมให้เสียหายด้วยน้ำมือของต นเอง แต่เป็นการจรรโลงประเทศชาติโดยไ ม่เห็นแก่ตัว แต่มองประโยชน์ส่วนรวมประเทศชาต ิเป็นสำคัญ
5. การสร้างประเทศชาติที่ไม่มีการแ บ่งแยก นั่นหมายถึงไม่มีการแบ่งแยกทางช นชั้น, ไม่มีการแบ่งแยกในด้านดินแดน,ไม่ มีการแบ่งแยกทางด้านอุดมการณ์ แต่มีหลักการและอุดมการณ์ที่ยอม รั้บร่วมกันที่เป็นสากล หรือเป็นสิ่งที่ยอมรับความเห็นต ่างกันได้ แต่ไม่ใช้วิธีรุนแรง ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ และไม่ละเมิดกฎเกณฑ์ในสิ่งที่ไม ่ถูกต้อง และต้องมีความอดทนต่อความพ่่ายแ พ้ทางการเมืองแม้ว่าจะมีอิทธิพล บางประการที่อาจเสียเปรียบแต่ก็ ต้องอดทน จนประชาชนเห็นความดี ก็จะทำให้ได้รับชัยชนะในท้ายที่ สุดได้
สรุปแนวทางแก้ปัญหาของชาติมียุท ธศาสตร์หลายประการ สิ่งที่ผู้เขียนเป็นเพียงการนำเ สนอภาพกว้าง ๆ ที่เป็นแนวทางให้คนไท่ยร่วมกันค ิด ร่วมกันแก้ไขเพื่อให้บ้านเมืองข องเราดีขึ้น พัฒนาดีขึ้น และทุกฝ่ายเป็นผู้ชนะร่วมกัน หากเรามีความขัดแย้งและไม่ยอมลด ราวาศอก ผลสุดท้ายก็พ่ายแพ้กันทั้งประเท ศ, ไม่มีใครชนะ แต่มีแต่คนแพ้,ประเทศแพ้เท่านั้ น
1. หลักพระพุทธศาสนา ซึ่งมีสิ่งที่เป็นสัจธรรมของพระ
ก.ทุกข์ คือสิ่งที่เป็นปัญหาที่ทำให้คนใ
แต่ไม่สามารถประสานความคิดได้ นั่นคือเรื่องของประชาธิปไตยที่
ข. สมุทัย คือสาเหตุที่เกิดทุกข์ ก็คือเกิดความขัดแย้งของกลุ่มบุ
ค. นิโรธ คือการทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้
ง. มรรค คือหนทางไปสู่การแก้ปัญหาการเมื
2. หลักการจัดการบ้านเมืองเชิงสมดุ
ก. มิติในด้านการเงิน (Financial Dimension) หมายถึงว่านักการเมืองไม่ว่าฝ่า
ข. มิติในด้านการเรียนรู้และการพัฒ
ค. มิติในด้านกระบวนการภายใน (Internal Process Dimension) หมายถึงพรรคการเมืองต้องมีการพั
ง. มิติในด้านการสร้างความพึงพอใจแ
3. ใช้หลักการบริหารแบบ win-win game คือการบริหารแบบชนะชนะ หรือแบบทุกฝ่ายเป็นผู้ชนะ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบมาก
4. การส่งเสริมยุทธศาสตร์การเป็นผู
5. การสร้างประเทศชาติที่ไม่มีการแ
สรุปแนวทางแก้ปัญหาของชาติมียุท
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น