20 วิธีในการเพิ่มชีวิตให้อยู่ได้ยืนนาน



โดยแอนนา บอคมา 


        มีสตรีชาวฝรั่งเศส หล่อนชื่อว่าจีนเน่ คาลเมนต์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอายุมากที่สุดในโลก  ตายเมื่อปี ค.ศ. 1997 ด้วยอายุถึง 122 ปี    มีอะไรที่ทำให้หล่อนมีชีวิตได้อย่างยืนนาน  ตอนอายุ 85 ปีหล่อนเล่นฟันดาบ และตอนอายุ 100 ปีหล่อนก็ยังขี่จักรยาน
        ตามสำมะโนประชากรใน ปี ค.ศ.2006  มีประชาชนประมาณ 4,600 คนที่มีอายุมากกว่า 100 ปีในประเทศแคนนาดา และมีความเติบโตมากถึงร้อยละ 22 จากปี ค.ศ. 2001 และจากปี ค.ศ.2031  จะมีคนอายุครบร้อยปีกว่า 14,000 คน

อะไรคือสิ่งที่คุณสามารถมีอายุยืนยาวนานกว่า ?
       การมียืนส์ที่เหมาะสมช่วยเพิ่มโอกาสในการทำให้มีชีวิตอยู่ถึงร้อยปี  ทั้งนี้เพราะว่าการมีอายุยืนดำเนินไปในครอบครัว  อย่างน้อยร้อยละ 50 ของคนอายุครบร้อยปีมีความระดับของการเกี่ยวข้องกับญาติพี่น้องหรือปู่ย่าตายายซึ่งมีอายุไล่เลี่ยกัน ตามผลการศึกษาของผู้มีอายุยืนร้อยปีในนิวอิงแลนด์ของมหาวิทยาลัยบอสตัน ซึ่งเป็นผลการศึกษาของผู้มีอายุยืนในโลก
        คุณไม่สามารถควบคุมพันธุศาสตร์  แต่มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่คุณสามารถเพิ่มความเป็นไปได้ของการมีชีวิตในการมีอายุยืน  "ในวันสิ้นสุดของวันที่ผลการศึกษานิวอิงแลนด์ได้แสดงให้เห็ศนว่าลีลาชีวิต, อาหารการกิน,ทัศนคติทางด้านจิตใจ และอารมณ์เป็นการแสดงบทบาทที่สำคัญที่สุดในการมีอายุยืนนาน"  ซึ่งกล่าวโดยนายฟาริด วัสเซฟ นักเภสัชกรในเมืองสตูฟวิลล์, ออนตาริโอ และผู้ประพันธ์ร่วมของหนังสือชื่อว่า Breaking the Age Barrier" (ตีพิมพ์โดย Viking Canada, 2003) 
       คุณมีความหวังจะมีอายุครบร้อยปีใช่ใหม?   ต่อไปนี้จะเป็นวิธีสิบประการที่คุณอาจสามารถทำได้ ดังนี้คือ
       1. ดูแลตนเอง   หากมีน้ำหนักมากเกินไปมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจล้มเหลว, โรคเบาหวาน,มะเร็ง และโรคร้ายอื่นที่บั่นทอนชีวิตของคุณเอง
       2.จงรับประทานสิ่งดี ๆ และเพื่อส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้น : จงรับรู้เกี่ยวกับการรับประทานผลไม้และพืชผักในหนึ่งวัน(ยิ่งพืชที่มีสีเขียวมากเท่าใดก็ยิ่งดีมากเท่านั้น, เมล็ดข้าวทั้งหมดที่คัดสรรมาหรือเกลือ,ไขมันและน้ำตาล
       3. งดสูบบุหรี : เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงให้มาก
       4. มีลูกน้อยภายหลัง: สตรีที่แบกภาระเด็กๆ หลังอายุ 40 มีโอกาสในการมีชีวิตยืนนานถึง 100 ปีถึง 4 เท่ามากกว่าสตรีที่ให้กำเนิดในตอนต้นของชีวิต  ตามผลการศึกษาของ NECS
       5. ป้อนสิ่งดีใส่สมอง: ปริศนาคำไขว้, เรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ, เล่นงานอดิเรก, เข้าร่วมฟังบรรยายและหาวิธีเล่นทวิตเตอร์และสไก๊ป์  ทุกสิ่งทุกอย่างจะรักษาจิตใจเอาไว้
       6. จงรักษาหุ่นให้พอเหมาะ: ด้วยการออกกำลัง รักษาร่างกายให้เข้มแข็งและมีการประกั้นที่ดีที่สุดเพื่อต่อต้านเชื่อโรคและความเจ็บป่วย
       7. จงมีชีวิตเป็นกลุ่มคณะ: อย่างน้อยที่สุดการมีเครือข่ายสังคมโดยมีการผูกโยงใกล้ชิดกับเพื่อนฝูงและครอบครัว การเชื่อมโยงสามารถช่วยปัดป้องแรงกดดัน, เพิ่มระบบการคุ้มกันให้ร่างกายของคุณ และช่วยให้คุณมีชีิวตได้ยืนนาน
       8. ปรับปรุงนิสัยที่ช่วยลดความเครียด: ได้แก่การเดิน, นั่งสมาธิ, พูดกับเพื่อนหรือเล่นดนตรี เรียนรู้การจัดการความเครียด ในฐานะที่เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันเชื้อโรค
       9. ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ: การอาสาสมัครจะทำให้มีความสุขมากกว่า, มีสุขภาพดีกว่าและมีชีวิตที่ยืนนาน ผลการศึกษาจากบริษัทสหรัฐอเมริกาสำหรับการบริการช่วยเหลือชุมชนและระดับชาติแสดงถึงการเชื่อมโยงที่เข้มแข็งระหว่างการมีจิตอาสาและการมีอายุยืนนาน 
      10. จงแต่งงาน: ผลการศึกษาจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าคนที่แต่งงานจะมีชีวิตยืนนานกว่าคนที่ไม่แต่งงาน และการแต่งงานเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อผู้ชาน   จากการศึกษาในปี ค.ศ. 2010 จากประเทศเยอรมันจากสถาบัน Ruhr Graduate School พบว่าผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีเพียงร้อยละ 6 เท่านั้นที่ไปหาหมอ  เป็นไปได้เพราะว่าภรรยาของเขาส่งเสริมให้พวกเขามีการตรวจสอบตามปรกติ
      11. มีพลังทางเพศสูง: ผู้ที่ปลุกพลังทางเพศสูงจะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการมีชีวิตที่ยืนนาน  จากรายงานปี ค.ศ. 2010 ในวารสาร American Journal of Cardiology แสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่มีพลังทางเพศสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์จะมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 45 %
      12. ผู้ที่หัวเราะอย่างสบายใจเปรียบเสมือนโอสถที่ดีที่สุด: จากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ พบว่าคนที่หัวเราะวันละ 15 นาทีจะมีการปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดต่อหัวใจถึง 50 % ซึ่งช่วยลดโรคหัวใจ
      13. รักษาอารมณ์ให้สงบ: มีความอดทน, สามารถมีสิ่งที่เขาตั้งใจ " ดังที่เบนจามิน แฟรงกลิน ซึ่งอาจจะได้แก่การมีชีวิตที่ยืนนานกว่า   บุคคลที่มักแสดงอารมณ์โกรธมากกว่าสองครั้งจะมีปัญหาสุขภาพมากกว่าผู้ที่ควบคุมอารมณ์ได้  ตามปี ค.ศ. 1999 จากการศึกษาได้รายงานในวารสาร Stroke
      14. พยายามมีการพักผ่อนให้เหมาะสม: จากการศึกษาปี 2002 โดยศูนย์การพักผ่อนนอนหลับในคลีนิคที่ชื่อ Scripps ในรัฐคาลิฟอร์เนียร์เกี่ยวกับนิสัยการนอนหลับของอเมริกันชนจำนวน 1 ล้านคนพบว่าบุคคลที่หลับระหว่าง 6 ชั่วโมงครึ่งถึงเจ็ดชั่วโมงครึ่งในหนึ่งคืนมีชีวิตที่ยืนนานที่สุด    จากการศึกษายังพบว่าบุคคลที่หลับถึง 8 ชั่วโมงหรือมากกว่าหรือน้อยกว่า 6 ชั่วโมงครึ่ง จะไม่มีชีวิตอยู่ได้ยาวนาน (ซึ่งเป็นการนอนหลับมากเกินไปหรือน้อยเกินไป)
      15. บริโภควิตามินหลายชนิด: จากผลรายงานของสถาบันการแพทย์ฮาร์วาร์ดแนะนำว่าขนาดยาปรกติของอาหารเสริมได้แก่แคลเซียม และวิตามินดี ช่วยให้ชีวิตยืนนานมากขึ้น
      16.  การใช้ใหมขัดฟันประวัติช่วยเพิ่มชีวิตให้ยืนนาน: การมีสุขภาพปากไม่ดีเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยอย่างสุงกับโรคหัวใจ และหัวใจล้มเหลว  จากผลการศึกษาที่อีมอรี่ในเมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย กับศูนย์ควบคุมโรค ที่ระบุว่าบุคคลทีมีโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์จะมีอัตราการตายถึง 23-46 เปอร์เซ็นต์สูงกว่าผู้ที่ไม่มีโรคดังกล่าว
      17. บุคคลที่ใช้เวลาว่างกับสัตว์เลี้ยง: จะมีความโดดเดี่ยวและมีแรงกดดันน้อยกว่าและยังมีการออกกำลังกายมากขึนจะช่วยให้ชีวิตยืนนานมากขึ้น
      18. จงเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่สร้างพลังจิตใจ:  ผลการศึกษามากมายพบว่าบุคคลที่เข้าร่วมกับกิจกรรมทางศาสนาจะมีชีวิตยืนนานกว่า, มีความสุขมากกว่าและมีสุขภาพดีกว่า
      19. มีการพบแพทย์อยู่เป็นประจำ: เชื้อโรคหลายอย่าง เช่นโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจสามารถป้องกันได้แต่เนิ่นได้ดี
       20. มองโลกอย่างสดใส: คุณลักษณะประการหนึ่งที่ช่วยให้อายุยืนนานมากที่สุดนั่นก็คือการมองโลกในแง่ดี หากคุณต้องการที่จะมีชีวิตยืนนาน ด้วยการมีทัศนคติที่ดี

      สรุป การมีชีวิตที่ยืนนานมีหลากหลายวิธี สำหรับคนไทยที่มีอายุยืนนานมักจะเป็นชาวบ้านที่อยู่ตามชนบทที่มีวิถีชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ผู้สูงอายุมากกว่า 100 ปีของไทยมีเคล็ดลับทานกล้วยน้ำว้ากับข้าวเหนียว ซึ่งก็เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ซึ่งต้องแสวงหาว่าเหตุใดคนไทยที่มีอายุยืนนั้นเขาปฏิบัติตนอย่างไรจึงมีชีวิตอยู่ได้ยาวนาน
                                     
                                                    ------------------------------
   




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

108 คำคมขงเบ้ง คำคมสอนใจ จากขงเบ้ง

ตัวแบบงบประมาณผูกพัน (Beyond Budgeting) ตอนที่หนึ่ง