ถึงเวลาแล้วที่คนไทยควรออกแบบต่อยอดประชาธิปไตยเพื่อการปรองดอง

ประชาธิปไตยเพื่อการปรองดอง นั้นหมายความว่าเป็นประชาธิปไตยที่พบกันครึ่งทางของสิ่งที่มีวัฒนธรรมต่างกัน ระหว่างวัฒนธรรมการปกครองแบบประชาธิปไตยแบบดั้งเดิม (Classical democratic regime) กับวัฒนธรรมประชาธิปไตยแบบสมัยใหม่ (Post-modern democratic regime) ซึ่งเกิดจากความเชื่อ,ค่านิยม,ประเพณี, ปทัสถานที่แตกต่างกัน เกิดจากช่องว่างในการเข้าถึงระบบวัฒนธรรมที่ต่างกัน ซึ่งหมายถึงว่าการที่ประชาชนในแต่ระดับชนชั้นไม่สามารถเข้าถึงอำนาจ หรือการยอมรับในอำนาจของประชาชนต่างระดับชั้นได้ จึงเป็นที่มาของความขัดแย้งอันเนื่องจากโครงสร้างสังคมที่มีความขัดแย้งกันในเรื่องผลประโยชน์ของชาติในการจัดสรรเงินงบประมาณให้ทั่วถึง หรือการกระจายรายได้, การกระจายโอกาสให้ทั่วถึง  จึงควรมีกฎหมายเพื่อสร้างความสมานฉันท์ปรองดองเพื่อการแบ่งสัดส่วนงบประมาณในการพัฒนาให้กับคนทุกระดับชั้น เีพียงแต่ควรพัฒนาระดับรากหญ้าให้มีวิถีชีวิตที่ดีก่อน รวมทั้งการสร้างสมานฉันท์โดยนำเอาทางแนวคิดศาสนามาช่วยฟื้นฟูความคิดของมนุษย์ที่มีความต้องการไม่มีสิ้นสุด ซึ่งหมายความว่าคนที่มีอยู่แล้วมากมายก็ปรารถนามีมากขึ้นไป แต่ไม่ยอมลดผลประโยชน์ของตน หรือการเสียสละให้กับชนชั้นอื่น ทำให้เกิดปัญหาไม่มีสิ้นสุด   ซึ่งรัฐบาลควรวางกลไก หรือโครงสร้างปรองดองแห่งชาติในการจัดสรรงบประมาณที่เห็นเด๋นชัด  เช่นในระดับรากหญ้าควรจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อสวัสดิการแห่งชาติ และจัดสรรงบประมาณเพื่อคนระดับกลางในการสร้างรายได้หรืออนาคตโดยไม่ต้องใช้วิธีการแบบระบบอุปถัมภ์ แต่รัฐควรให้ประชาชนได้รับโอกาสทางการเงินเพื่อความยืดหยุ่นในการพัฒนาวิถีชีวิตที่ดีขึ้นเช่นการประกอบธุรกิจขนาดย่อม, ระบบการปล่อยเงินกุ้ควรนำไปสู่การฟื้นฟูชาติหรือการหารายได้ เช่นรายได้จากการส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ โดยเชิญนักลงทุนทั่วโลกมาลงทุนเพื่อพัฒนาคนไทยให้มีการจ้างงานให้มากขึ้น เช่นในประเทศแถบอัฟริกา, ตะวันนออกกลาง การจัดทำ OTOP minimart ทั่่วโลกของไทยให้ก้าวไปสู่ต่างประเทศ โดยส่งเสริมนักลงทุนต่างชาติร่วมทุน (่Joint venture) เพื่อส่งเสริมฝีมือคนไทยนำสินค้าสู่ต่างแดนนำเงินตราเข้าประเทศ และการส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศให้มาก  ดังนั้นการปรองดองนั้นมิใช่เป็นการปรองดองแค่คำพูด แต่เป็นวิสัยทัศน์แห่งการปรองดองที่กระจายผลประโยชน์ทั้งแผ่นดิน เพียงแต่ชนชั้นกลางและระดับสูงควรยอมรับการพัฒนาประชาชนรากหญ้าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่พัฒนาชนชั้นระดับกลาง   และการเป้นพันธมิตรธุรกิจกับทุนผูกขาดในประเทศไทย ให้ช่วยเหลือคนไทยมีงานทำและีมีอนาคต  ไม่ควรแบ่งเป็นทุนเก่าทุนใหม่ แต่เป็นทุนผสมผสานแนวคิดเก่ากับใหม่ให้กลมกลืนจึงจะำทำใ้ห้การปรองดองมีลมหายใจที่สดชื่นทุกฝ่าย   ไม่เป็นที่อึดอัดหากมีการเลือกฝ่ายมากเกินไป เพียงแต่บุคคลที่มีความพร้อมสูงอยู่แล้วควรเสียสละให้กับประชาชนบ้างเท่านั้นเอง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบการเมืองที่ดีเหมือนปลาในอ่างแก้วที่มองเห็นตัวปลาชัดเจน

108 คำคมขงเบ้ง คำคมสอนใจ จากขงเบ้ง

ตัวแบบงบประมาณผูกพัน (Beyond Budgeting) ตอนที่หนึ่ง